สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เพิ่มข้อห้ามเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในร่างกฎหมายงบประมาณด้านกลาโหมประจำปี 2026 ส่งผลให้ความพยายามในการผลักดันการสร้าง *ดอลลาร์ดิจิทัล* ต้องเผชิญกับแรงต้านที่หนักหน่วงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 27 (เวลาท้องถิ่น) คณะกรรมาธิการด้านกฎเกณฑ์ของสภาผู้แทนฯ ได้เผยแพร่ร่างแก้ไขกฎหมาย National Defense Authorization Act (NDAA) ภายใต้ชื่อ “HR 3838” ซึ่งรวมเอาข้อห้ามอย่างชัดเจนในการให้เฟดมีอำนาจพัฒนาและออก *CBDC* โดยตรง โดยข้อห้ามนี้เป็นส่วนหนึ่งของแก้ไขเพิ่มเติมที่มีความยาวกว่า 1,300 หน้า
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม สภาผู้แทนฯ ที่นำโดยพรรครีพับลิกันก็เคยผ่านกฎหมาย “ป้องกันรัฐสอดแนมผ่าน CBDC” (Anti-CBDC Surveillance State Act) มาแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 219 ต่อ 210 แม้จะผ่านในสภาล่าง แต่ในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่
กฎหมาย NDAA ถือว่ามีความสำคัญในฐานะกฎหมายที่ ‘ต้องผ่าน’ เนื่องจากเป็นกลไกที่กำหนดงบประมาณและทิศทางการปฏิบัติงานของกองทัพสหรัฐฯ ทำให้หลายฝ่ายใช้ช่องทางนี้นำเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลาโหมเข้าไปผูกกับร่างกฎหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านสภา
แหล่งข่าวชี้ว่า การที่บทบัญญัติเกี่ยวกับการห้าม *CBDC* ของเฟดถูกบรรจุเข้าใน NDAA ครั้งนี้ เป็นผลจากการเจรจาภายในพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์นิยมสายแข็งที่กดดันผู้นำพรรคให้ใส่ข้อห้ามดังกล่าวเพื่อแลกกับการเดินหน้าพิจารณากฎหมายด้านคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ ที่ยังล่าช้าอยู่ในกระบวนการ โดยมีบางช่วงที่เกิดการชะลอการลงคะแนนในสภานานกว่า 9 ชั่วโมง
ในที่สุด สตีฟ สเคลิส (Steve Scalise) ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ต้องออกมายืนยันว่าจะนำข้อห้ามนี้รวมไว้ในร่างกฎหมาย NDAA ซึ่งถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ของพรรครีพับลิกันในการเอาชนะความเสี่ยงที่กฎหมายห้าม *CBDC* จะตกไปหากเสนอเป็นร่างกฎหมายแยก
การดำเนินการล่าสุดนี้อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อแผนการศึกษาการพัฒนา *ดอลลาร์ดิจิทัล* ของรัฐบาลโจ ไบเดนและพรรคเดโมแครต ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงจุดยืนชัดเจนในการหาเสียงว่า *CBDC* คือ “เครื่องมือในการลิดรอนเสรีภาพ” และประกาศคัดค้านอย่างชัดเจน
*ความคิดเห็น*: ความแตกแยกระหว่างพรรคการเมืองในสหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้นอาจส่งผลให้การนำ ‘ดอลลาร์ดิจิทัล’ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน และเสี่ยงต่อการล่าช้าแบบไร้กำหนด
ความคิดเห็น 0