ความกังวลเกี่ยวกับ ‘อุปสงค์’ ที่ลดลงของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดบิตคอยน์(BTC)
เมื่อวันที่ 20 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 70 วัน ความเคลื่อนไหวของดัชนีดังกล่าวทำให้ตลาดจับตาว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อราคาบิตคอยน์อย่างไร เนื่องจากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บิตคอยน์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ DXY
นักวิเคราะห์มองว่าความสัมพันธ์ระหว่าง DXY และบิตคอยน์ไม่ใช่ ‘เหตุและผล’ โดยตรง แต่สะท้อนถึงแนวโน้มโดยรวมของตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง สังเกตได้จากการที่ทั้งสองสินทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วจนถึงมกราคม ก่อนจะเข้าสู่ช่วงปรับฐาน
บางฝ่ายมองว่าทรัมป์กำลังผลักดัน ‘นโยบายรัดเข็มขัดด้านการคลัง’ ซึ่งอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดบ่งชี้ว่าการบริโภคชะลอตัวและแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่เพิ่มความเสี่ยงต่อ ‘ภาวะเงินเฟ้อซบเซา’ (Stagflation) ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจกระทบต่อความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
ด้านกระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่า ยังไม่มีแผนเพิ่มการออกพันธบัตรระยะยาวในขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เจเน็ต เยลเลน ที่มุ่งเน้นพันธบัตรระยะสั้นมากกว่า สกอตต์ เบสันท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า “การออกหนี้ระยะยาวเพิ่มเติมยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน” และย้ำว่ากำลังติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดและธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด
แม้ว่าบิตคอยน์ยังได้รับแรงกดดันจากความสัมพันธ์กับ DXY แต่ในระยะยาว นักลงทุนจำนวนมากเริ่มให้ความสำคัญกับบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ หลายรัฐในสหรัฐกำลังพิจารณาให้บิตคอยน์เป็น ‘สินทรัพย์สำรองตามกฎหมาย’ ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 19 สภานิติบัญญัติรัฐมอนทานาได้ผ่านร่างกฎหมายกำหนดบัญชีสำรองพิเศษที่รวมบิตคอยน์และทองคำ ขณะที่รัฐยูทาห์, แอริโซนา และโอคลาโฮมาก็กำลังพิจารณาแนวทางคล้ายกัน
ในขณะเดียวกัน บิตคอยน์ได้ทดสอบแนวต้านที่ระดับ 98,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าสถาบันการเงินเริ่มให้ความสำคัญกับคุณลักษณะของบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ที่มีอุปทานจำกัด ความแข็งแกร่งของตลาดทองคำซึ่งปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แสดงถึงแนวโน้มของ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ อาเลส มิคห์ล(Aleš Michl) ผู้ว่าการธนาคารกลางเช็กเปิดเผยว่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการนำบิตคอยน์เข้าสู่บัญชีสินทรัพย์สำรอง
อนาคตของราคาบิตคอยน์ยังคงพึ่งพาการไหลเวียนของเงินทุนเข้าสู่ ‘กองทุน ETF บิตคอยน์สปอต’ แม้ว่าแนวโน้มล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการไหลเข้าของเงินทุนชะลอตัวบ้าง จากข้อมูลของ Farside Investors พบว่าในช่วงสองวันที่ผ่านมามีการไหลออกสุทธิถึง 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท)
นักลงทุนยังคงจับตาว่าบิตคอยน์จะสามารถเปลี่ยนสถานะจาก ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ เป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน ตลาดกำลังรอคอยท่าทีของรัฐบาลสหรัฐต่อทิศทางเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว
ความคิดเห็น 0