คาร์ดาโน(ADA) พยายามฝ่าด่าน ‘1 ดอลลาร์’ ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่กระแสขาขึ้นกลับไม่สามารถรักษาไว้ได้ ระลอกล่าสุดของราคาพุ่งขึ้น เกิดขึ้นภายหลังจากคำแถลงของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม แรงขายที่ระดับแนวต้านสำคัญยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้ความพยายามของ ADA ต้องยุติลงอีกครั้ง
คาร์ดาโนเริ่มต้นการดีดกลับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม โดยขยับขึ้นต่อเนื่องจนแตะระดับ 0.987 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,372 บาท) เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ผู้เข้าร่วมตลาดบางส่วนแสดงความมั่นใจว่า ADA จะสามารถกลับไปยืนเหนือหลักจิตวิทยาที่ 1 ดอลลาร์ได้ แต่ความคาดหวังกลับถูกกลบด้วยแรงเทขายทำกำไร จนราคาถดถอยและชนแนวต้านในช่วง 0.9 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,251 บาท) หลายครั้ง
สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่แน่นอนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาด โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะชะลอ ส่งผลให้ตลาดคริปโตเผชิญแรงกระแทกจากการชำระบัญชีสัญญาฟิวเจอร์สมูลค่าหลายพันล้านวอน ราคาของ ADA จึงหล่นไปแตะระดับต่ำสุดที่ 0.8215 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,141 บาท) ในวันที่ 19 สิงหาคม ก่อนจะสามารถรีบาวด์กลับมาได้ในเวลาต่อมา
ปัจจัยหนุนล่าสุดเกิดจากการส่งสัญญาณที่ผ่อนคลายมากขึ้นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่เปิดประเด็น ‘อาจลดดอกเบี้ยล่วงหน้าหากเงินเฟ้อผ่อนคลาย’ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาเข้าตลาดอีกครั้ง คาร์ดาโนจึงดีดขึ้นแตะระดับ 0.9415 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,308 บาท) ในวันที่ 23 สิงหาคม และกระตุ้นความหวังว่าจะสามารถ ‘ทะลุ 1 ดอลลาร์’ ได้อีกครั้ง
ทางเทคนิค สัญญาณจากดัชนี RSI และเครื่องมือโมเมนตัมอื่น ๆ ชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นมี ‘ความเป็นไปได้’ แต่ช่วงสั้นอาจต้องเผชิญกับแรงขายสะสมในกรอบแคบหรือการพักตัวในแนวทรงตัว ตามการวิเคราะห์ของนักกลยุทธ์ตลาด
ปัจจุบัน คาร์ดาโนกำลังทดสอบแนวต้านแข็งแกร่งในช่วง 0.93 - 0.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,294 - 1,377 บาท) มาเป็นรอบที่หลาย ซึ่ง ‘ยังขาดแรงซื้อที่เด็ดขาด’ ในการดันราคาให้ทะลุกรอบได้ หากสามารถผ่านแนวต้านนี้ได้สำเร็จ มีโอกาสสูงที่ ADA จะ ‘ยืนเหนือ 1 ดอลลาร์’ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาได้ในระยะถัดไป
ด้านแนวรับสำคัญอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ณ ระดับ 0.79 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,098 บาท) ซึ่งหากราคาอ่อนตัวลงอีกครั้ง แนวรับบริเวณนี้จะเป็นจุดชี้ขาดว่าจะเกิดการกลับตัวรอบใหม่หรือไม่ นักลงทุนในตลาดยังต้องติดตามปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ตลอดจนพัฒนาการของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0