อีเธอเรียม(ETH) กำลังแสดงแนวโน้มแข็งแกร่งหลังจากปรับตัวขึ้นเกือบ 25% นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลว่าเดือนกันยายนอาจไม่สดใสนักสำหรับ ‘อีเธอเรียม’ หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต โดยเฉพาะในปีที่เกิดหลังการ ‘ลดรางวัลบล็อก’ (Halving) ของบิตคอยน์(BTC)
เมื่อวันที่ 30 นักเทรดคริปโตภายใต้นามแฝง ‘CryptoGoos’ แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “เดือนกันยายนในปีที่เกิดหลังเหตุการณ์ Halving มักเป็นช่วงที่ ‘อีเธอเรียม’ เคลื่อนไหวในทิศทาง ‘เชิงลบ’ เสมอ” พร้อมตั้งคำถามว่า “รอบนี้จะเป็นข้อยกเว้นหรือไม่?” ซึ่งความคิดเห็นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการอนุมัติ ETF อ้างอิงอีเธอเรียมในสหรัฐ และความพยายามของภาคธุรกิจที่เริ่มนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน
ราคาของอีเธอเรียมล่าสุดอยู่ที่ 4,759 ดอลลาร์ (ราว 6,611,000 บาท) ขยับขึ้นจากต้นเดือนซึ่งอยู่ที่ 3,807 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,294,000 บาท) หรือเพิ่มขึ้นราว 952 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,317,000 บาท) โดยในวันที่ 30 ราคายังสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบปีที่ระดับ ‘4,867 ดอลลาร์’ (ประมาณ 6,772,000 บาท) ได้อีกด้วย
แรงส่งในการขยับขึ้นครั้งนี้มาจากการแสดงความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เจอโรม พาวเวล(Jerome Powell) ที่งานประชุม Jackson Hole Symposium โดยเขาส่งสัญญาณ ‘อาจลดดอกเบี้ย’ ซึ่งถูกแปลความโดยตลาดในเชิงบวก
อย่างไรก็ตาม สถิติจากปี 2016 ถึงปัจจุบันชี้ว่า ทุกครั้งที่อีเธอเรียมปรับตัวขึ้นแรงในเดือนสิงหาคม มักจะเผชิญแรงขายต่อในเดือนกันยายนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามข้อมูลของ CoinGlass ชี้ว่า มี 3 ครั้งที่อีเธอเรียมปรับตัวขึ้นในเดือนสิงหาคม และทั้งสามครั้งนั้น เดือนกันยายนล้วนถูกเทขาย
แม้ว่าปัจจัยใหม่ในรอบนี้ เช่น การอนุมัติ ‘ETF’ และการไหลเข้าของกองทุนสถาบัน อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกม แต่การที่ ‘พฤติกรรมในอดีต’ ยังมีน้ำหนัก ก็ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะ ‘เน้นการบริหารความเสี่ยง’ มากกว่าความหวังในกำไรระยะสั้น ความเห็นในตลาดจึงเริ่มเอนเอียงไปทางมุมมองที่ ‘ระมัดระวังมากขึ้น’ ในช่วงเปลี่ยนเดือนนี้
ความคิดเห็น 0