อีเธอเรียม(ETH) ได้สร้างสถิติใหม่ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการทำราคาทะลุระดับ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาล ส่งผลให้ราคาในภาพรวมนับตั้งแต่เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นมากกว่า 240% สัญญาณเชิงบวกจากนักวิเคราะห์และข้อมูลบนบล็อกเชนชี้ว่า ตลาดกำลังเข้าสู่ *‘ช่วงแห่งความเชื่อ (belief)’* ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงปลายของตลาดกระทิงก่อนหน้านี้ เป็นสัญญาณว่าราคาของอีเธอเรียมยังมีโอกาสพุ่งขึ้นได้อีกมาก
จากข้อมูลการวิเคราะห์แบบออนเชน แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มขาขึ้นของอีเธอเรียมในครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับวัฏจักรขาขึ้นของตลาดในอดีต โดยเฉพาะดัชนี *NUPL (Net Unrealized Profit/Loss)* สำหรับผู้ถือสินทรัพย์ในระยะยาว (Long-term Holder: LTH) ซึ่งในเวลานี้เข้าสู่ช่วง *‘belief-denial’* ที่นักลงทุนนิยามว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นใจที่มีรากฐานมากกว่าความคาดหวังที่ไม่มีเหตุผล
เกอร์ท ฟาน ลาเกน(Gert van Lagen) นักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยว่า เมื่อตรวจสอบผลตอบแทนของนักลงทุนที่ถืออีเธอเรียมไว้นานกว่า 155 วัน พบว่า ช่วงเวลาที่ตัวชี้วัด NUPL เข้าสู่โซน *‘belief’* นั้น มักตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ฟาน ลาเกนยังเสริมอีกว่า อีเธอเรียมยังไม่ได้เข้าสู่ช่วง *‘หลงใหล (euphoria)’* นั่นหมายความว่ายังเหลือพื้นที่ให้ราคาเติบโตอีกมาก โดยเขาคาดการณ์ว่า ETH มีโอกาสขยับขึ้นไปอยู่ในช่วงระหว่าง *10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท) ถึง 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 27.8 ล้านบาท)*
อีกหนึ่งดัชนีสำคัญอย่าง MVRV (Market-Value-to-Realized-Value) ก็สะท้อนว่า อีเธอเรียมยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ตัวชี้วัดนี้มักถูกใช้เพื่อประเมินจังหวะการเข้าซื้อของตลาด ตามข้อมูลล่าสุด MVRV ชี้ว่า ETH ยังมี *ศักยภาพในการขยับขึ้นได้อีก* โดยเทรดเดอร์บางส่วนตั้งเป้าราคาระยะสั้นไว้ที่ *5,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 7.645 ล้านบาท)* ขณะที่มุมมองทางเทคนิคจากรูปแบบฐานโค้งแสดงให้เห็นว่า ราคาสามารถทะยานถึง *12,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.815 ล้านบาท)* ได้ในระยะยาว
ด้านโครงสร้างตลาด ยังมีสัญญาณเสริมจากฝั่งของวาฬบิตคอยน์(BTC) ที่เริ่มมีการขาย BTC เพื่อปรับโครงสร้างพอร์ต และโยกมาเก็บ ETH แทน ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนทิศของกระแสเงินทุนมายังอีเธอเรียม *ความคิดเห็น: การไหลเข้าของทุนเช่นนี้อาจทำให้อีเธอเรียมกลายเป็นผู้นำตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในรอบนี้*
เมื่อดัชนีออนเชน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และจิตวิทยาตลาดต่างก็แสดงสัญญาณบวกพร้อมกันแบบนี้ ทำให้ ETH กลายเป็นจุดสนใจหลักของผู้ลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งยังเสริมความคาดหวังว่า ตลาดขาขึ้นของอีเธอเรียมยังไม่จบ และอาจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
ความคิดเห็น 0