Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เจมินีเปิดตัวบัตร XRP จับมือริปเปิล ดันขึ้นท็อป 16 แอปการเงินในสหรัฐฯ แซงคอยน์เบส

เจมินีเปิดตัวบัตร XRP จับมือริปเปิล ดันขึ้นท็อป 16 แอปการเงินในสหรัฐฯ แซงคอยน์เบส / Tokenpost

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในสหรัฐฯ อย่างเจมินี(Gemini) กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากเปิดตัวบัตร ‘มาสเตอร์การ์ด XRP’ ร่วมกับริปเปิล(XRP) จนทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 16 ในหมวดการเงินของแอปสโตร์ โดยแซงหน้าแอปของคู่แข่งรายใหญ่อย่างคอยน์เบส(Coinbase) ได้สำเร็จ การเปิดตัวบัตรใบนี้ไม่เพียงแต่สร้างกระแสให้กับแอปของเจมินี แต่ยังถือเป็น ‘ชัยชนะเชิงกลยุทธ์’ ที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของคอยน์เบสในระยะยาว

บัตรใหม่นี้เปิดให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันพร้อมรับคืนสูงสุด 4% ในรูปแบบ XRP ทันที โดยเจมินีร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดและเวบบังค์(WebBank) ในการออกบัตร สำหรับร้านค้าที่ร่วมรายการ ผู้ถือบัตรมีสิทธิ์ได้รับสูงสุดถึง 10% แบบ *เรียลไทม์* จุดขายสำคัญจึงอยู่ที่ ‘การคืนเงินทันที’ และ ‘อัตราเงินคืนที่สูง’ ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมาก

ไม่เพียงแค่นั้น รากฐานของโครงการนี้ยังเชื่อมโยงกับวงเงินสนับสนุนจากริปเปิล ที่มอบเครดิตให้เจมินีกว่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,042 ล้านบาท) โดยมีการหารือเพื่อขยายวงเงินสูงสุดถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,085 ล้านบาท) จุดมุ่งหมายของความร่วมมือคือการเร่งวงจรการใช้งานคริปโตของริปเปิลในระบบเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะในภาคการชำระเงินและการชำระบัญชี

อีกด้านหนึ่ง ‘RLUSD’ ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ของริปเปิลก็ได้รับการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในตลาดสหรัฐฯ โดยใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในผลิตภัณฑ์ปล่อยกู้ของเจมินี และมีมูลค่าตลาดพุ่งแตะ 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,896 ล้านบาท) ทำให้ RLUSD ขึ้นมาติด *6 อันดับแรก* ของสเตเบิลคอยน์ที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐ

เจมินีชี้ว่าบัตร XRP ใบนี้เป็นมากกว่าแค่เครื่องมือสะสมแต้ม แต่ถือเป็นช่องทางลงทุนที่แท้จริง จากข้อมูลระหว่างปี 2021-2025 พบว่า ผู้ใช้งานที่เลือกเก็บสะสม XRP จากแอปเจมินี มีกำไรตอบแทน (rewards yield) พุ่งกว่า *450%* ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความเป็นไปได้ในการสร้างผลกำไรในระยะยาว

แม้กระแสความสำเร็จจะน่าสนใจ แต่ด้านสถานะทางการเงินของเจมินียังคงเผชิญแรงกดดัน โดยครึ่งแรกของปี 2025 บริษัทขาดทุนสุทธิถึง 282.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,913 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 41.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 576 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวบัตร XRP นี้ถือเป็น ‘ชนะเชิงกลยุทธ์’ ที่หาได้ยากของเจมินีในสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด

คำถามสำคัญในขณะนี้ คือความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่นี้จะยั่งยืนหรือไม่ ริปเปิลและเจมินีจะสามารถขยาย *ระบบนิเวศของ XRP และ RLUSD* ไปสู่การใช้งานในวงกว้างได้จริงหรือเปล่า และท้ายที่สุด เจมินีจะฟื้นตำแหน่งในอุตสาหกรรมคริปโตที่กำลังแข่งขันอย่างหนักหน่วงได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้ยังต้องจับตาผลประกอบการและความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1