เอ็นวีเดีย(NVDA) ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก(GPU) รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2026 โดยทำผลงานได้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมาก การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเอ็นวีเดียครั้งนี้ เกิดจากความต้องการใช้งานด้าน ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’ และการประมวลผลสมรรถนะสูงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้รายได้จากแผนกศูนย์ข้อมูลแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
รายงานผลประกอบการระบุว่าไตรมาสที่ 2 เอ็นวีเดียมีรายได้รวม *467 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 64.9 ล้านล้านวอน) เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า และพุ่งขึ้นถึง 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น *264 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 36.7 ล้านล้านวอน) โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในแง่ของกำไรต่อหุ้น (EPS) เอ็นวีเดียรายงานตัวเลขตามมาตรฐานบัญชี GAAP อยู่ที่ *1.08 ดอลลาร์* (ประมาณ 1,501 วอน) และตามมาตรฐาน Non-GAAP อยู่ที่ *1.05 ดอลลาร์* (ประมาณ 1,459 วอน) โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ทำได้สูงถึง *72.4%* ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างมาก บริษัทคาดว่าความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์ จะช่วยรักษาโครงสร้างกำไรที่สูงเช่นนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้นเอ็นวีเดียร่วงลงประมาณ 3.3% ในการซื้อขายนอกเวลาปิดทำการ นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากการขายทำกำไรหลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นเร็วเกินไปในช่วงหลัง แต่ในภาพรวมแนวโน้มระยะกลางถึงยาวยังคงเป็นบวก จากความต้องการด้าน AI ที่ไม่มีทีท่าจะชะลอลง
ความสำเร็จของเอ็นวีเดียในไตรมาสนี้ยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การลงทุนใน AI อินฟราสตรัคเจอร์และบริการโมเดลสร้างสรรค์อย่างเช่นการสร้างข้อความหรือภาพ สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้จริงได้ในภาคธุรกิจ สำหรับตลาดคริปโต รายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งนี้อาจส่งผลเชิงบวก โดยเฉพาะต่อโครงการบล็อกเชนที่พึ่งพา AI และแพลตฟอร์มที่ใช้ GPU ในกระบวนการขุด อาจได้รับประโยชน์ในระยะกลางและระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0