คาอิโตะ AI(KAITO) โทเคนพุ่งขึ้นเกือบ 50% แม้เผชิญแรงเทขายจากอินฟลูเอนเซอร์คริปโตรายใหญ่
คาอิโตะ AI แพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโตที่มีเป้าหมายเป็น ‘แพลตฟอร์มข้อมูล Web3 ที่สมบูรณ์แบบ’ ได้ดำเนินการแจกจ่ายโทเคนแบบแอร์ดรอปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยมีการแจกจ่าย 10% ของอุปทานทั้งหมด และวางแผนที่จะแบ่งปันเพิ่มอีก 20% ผ่านแอร์ดรอปและสิ่งจูงใจสำหรับชุมชนในอนาคต
ตามรายงานของ CoinMarketCap คาอิโตะ AI(KAITO) โทเคน พุ่งขึ้นถึง 49.5% ภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอร์ดรอป ทะลุระดับ 1.74 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าตลาดแตะ 421 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,066 ล้านบาท)
แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดสรรโทเคนให้กับบุคคลภายในในสัดส่วนที่สูงซึ่งอาจก่อให้เกิดแรงขาย แต่โทเคนยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้แต่ในกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำต่างพากันขายทิ้ง ตลาดก็ยังคงแสดงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
ข้อมูลจากอุตสาหกรรมคริปโตเผยว่า บุคคลสำคัญหลายคนได้ขายโทเคนที่ได้รับจากแอร์ดรอปออกไปทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด นักเทรดชื่อดัง แอนเซม(Ansem) ได้ขายโทเคน KAITO ทั้งหมดที่ถืออยู่ คิดเป็นมูลค่า 230,000 ดอลลาร์ (ราว 33 ล้านบาท) ขณะที่นักลงทุนอีเธอเรียม(ETH) แอนโทนี ซาซาโน(Anthony Sassano) ก็ตัดสินใจขายออก 185,000 ดอลลาร์ (ราว 27 ล้านบาท) ด้าน มาร์ต(Mert) ซีอีโอของ เฮลิอุส แล็บส์(Helius Labs) ได้ขายไป 80% ของโทเคนที่ได้รับ ซึ่งมีมูลค่าถึง 340,000 ดอลลาร์ (ราว 49 ล้านบาท)
นักวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน อินฟลูเอนเซอร์ RunnerXBT ระบุว่า 43.3% ของอุปทาน KAITO ถูกจัดสรรให้กับบุคคลภายใน โดย 35% เป็นของทีมพัฒนา และ 8.3% ตกเป็นของนักลงทุนกลุ่มแรก ซึ่งส่งผลให้บางส่วนในตลาดจับตาความเป็นไปได้ของแรงขายจากผู้ถือรายใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คาอิโตะ AI ยังคงได้รับการยอมรับในแง่ของศักยภาพทางเทคนิคในอุตสาหกรรมคริปโต โดย มาร์ซิน คาซเมียร์ซัก(Marcin Kazmierczak) ผู้ร่วมก่อตั้ง RedStone บริษัทโซลูชันบล็อกเชนออราเคิล ระบุว่า “หากคุณอยู่ในวงการการตลาดคริปโต ก็ไม่อาจมองข้ามเทคโนโลยีของ KAITO ได้”
ควบคู่กันไป กระแสความนิยมของ คาอิโตะ AI ยังทำให้มีมิจฉาชีพพยายามปลอมแปลงหน้าเว็บแอร์ดรอป เพื่อหลอกขโมยข้อมูลกระเป๋าเงินของนักลงทุน ทางคาอิโตะ AI จึงเร่งแจ้งเตือนผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ พร้อมแนะแนวนักลงทุนให้ใช้ช่องทางที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ การสมัครแอร์ดรอปของ คาอิโตะ AI จะเปิดให้เข้าร่วมจนถึงวันที่ 22 มีนาคม และตลาดยังคงจับตาดูว่าแนวโน้มการเติบโตของโทเคนนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่
ความคิดเห็น 0