คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ตกลงที่จะถอนฟ้องคดีของ ‘คอยน์เบส(COIN)’ ซึ่งถือเป็นชัยชนะทางกฎหมายที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐ
ตามรายงานของคอยน์เบส การตัดสินใจถอนฟ้องของ SEC ยังต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของหน่วยงาน แต่มีแนวโน้มสูงว่าคดีความทางกฎหมายจะยุติลงในที่สุด ไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของคอยน์เบส กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “นี่เป็นสัญญาณสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับเรา แต่สำหรับอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด” พร้อมเสริมว่า “จะส่งผลดีต่อชาวอเมริกันกว่า 50 ล้านคนที่ถือครองคริปโต รวมถึงตลาดโลกโดยรวม”
SEC ได้ดำเนินการฟ้องร้องคอยน์เบสในเดือนมิถุนายน 2023 โดยกล่าวหาว่าบริษัทดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่จดทะเบียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมที่เข้มงวดต่อบริษัทคริปโตหลายแห่งในช่วงเวลานั้น
ขณะเดียวกัน วุฒิสภาของรัฐยูทากำลังพิจารณาผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับ ‘บิตคอยน์(BTC) เป็นทุนสำรอง’ เป็นครั้งที่สอง ร่างกฎหมายดังกล่าวจะมอบอำนาจให้กระทรวงการคลังของรัฐสามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งอาจหมายถึงการนำบิตคอยน์มาใช้เป็นทุนสำรองของรัฐยูทา เดนิส พอร์เตอร์ ซีอีโอของ ‘ซาโตชิ แอคชัน ฟันด์’ คาดการณ์ว่า “ยูทาอาจเป็นรัฐแรกของสหรัฐที่นำบิตคอยน์มาใช้เป็นทุนสำรองของรัฐ”
ในอีกด้านหนึ่ง ฮาเวียร์ มิเลย์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา กำลังเดินทางเยือนสหรัฐในภารกิจระดับนานาชาติ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีของ ‘ลิบรา(LIBRA)’ ซึ่งเป็นมีมโทเคนที่เชื่อมโยงกับเขา รายงานระบุว่าในระหว่างการเยือนครั้งนี้ มิเลย์จะพบปะกับอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา(TSLA) รวมถึงคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) นอกจากนี้ เขายังมีแผนจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม ‘Conservative Political Action Conference (CPAC)’ ซึ่งเป็นงานประชุมเชิงอนุรักษนิยมในสหรัฐ
ประเด็นมีมโทเคนลิบรากลายเป็นข้อถกเถียงเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากมิเลย์แชร์ที่อยู่คอนแทร็กต์ของโครงการนี้ผ่าน X (เดิมชื่อ Twitter) พร้อมกล่าวว่ามันอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โครงการดังกล่าวกลับถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘รั๊กพูล’ หรือการโกงเงินนักลงทุน ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายกว่า 251 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 3.6 พันล้านบาท) เมื่อการวิพากษ์วิจารณ์ทวีความรุนแรงขึ้น มิเลย์ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับโครงการนี้
การเดินทางสหรัฐของมิเลย์ครั้งนี้กำลังถูกจับตาว่าจะสามารถช่วยพลิกกระแสความคิดเห็นของสาธารณชนได้หรือไม่ ขณะที่ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ก็ให้ความสนใจในทิศทางนโยบายของเขา โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ทรัมป์ได้กล่าวถึงมิเลย์ผ่าน ‘Truth Social’ พร้อมอ้างคำพูดของผู้นำอาร์เจนตินาว่า “หากการพิมพ์เงินสามารถขจัดความยากจนได้ งั้นเราคงสามารถขจัดความโง่เขลาเพียงแค่พิมพ์ปริญญา”
การเปลี่ยนแปลงในนโยบายกำกับดูแลของสหรัฐ รวมถึงร่างกฎหมายเกี่ยวกับบิตคอยน์ในยูทา อาจมีผลกระทบสำคัญต่อตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0