คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ได้ถอนข้อเสนอให้ขยายขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์กับแพลตฟอร์มการเงินไร้ศูนย์กลาง(DeFi) อย่างเป็นทางการ ซึ่งถูกมองว่าเป็น ‘ชัยชนะที่สำคัญ’ สำหรับอุตสาหกรรม DeFi
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ SEC ได้ยื่นเอกสารต่อศาลอุทธรณ์ภาคที่ 5 ของสหรัฐ ระบุว่า "ได้ตัดสินใจถอนคำอุทธรณ์โดยสมัครใจ" ทำให้คำตัดสินเดิมที่ยกเว้นแพลตฟอร์ม DeFi จากกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐ ยังคงมีผลบังคับใช้
กรณีนี้เริ่มต้นจากคำตัดสินของศาลรัฐบาลกลางเท็กซัสเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งตัดสินให้สนับสนุนข้อโต้แย้งของ ‘สมาคมบล็อกเชน’ และ ‘Crypto Freedom Alliance of Texas’ โดยศาลปฏิเสธความพยายามของ SEC ที่ต้องการบังคับให้นักลงทุนที่ให้สภาพคล่องในคริปโตและผู้ดูแลตลาดอัตโนมัติ(AMM) ต้องลงทะเบียนเป็น ‘ดีลเลอร์’
คริสติน สมิธ CEO ของสมาคมบล็อกเชนกล่าวว่า "การสกัดกั้นกฎระเบียบของ SEC ถือเป็น ‘ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ’ สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต ทำให้บริษัทและนักลงทุนสามารถผ่อนคลายมากขึ้น"
SEC ได้พยายามขยายคำนิยามของคำว่า ‘ดีลเลอร์’ มาตลอดปีที่ผ่านมาเพื่อให้สามารถกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนคริปโตและแพลตฟอร์มที่ใช้ระบบอัลกอริธึมในการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม การถอนคำอุทธรณ์ในครั้งนี้ อาจทำให้แผนดังกล่าวยุติลง
สถานการณ์นี้เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในสหรัฐ โดยเฉพาะเมื่อ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ได้เปลี่ยนตัวหัวหน้า SEC และแสดงท่าทีสนับสนุนการผ่อนปรนกฎระเบียบด้านคริปโต จุดนี้สะท้อนให้เห็นทิศทางของรัฐบาลที่ต้องการลดความเข้มงวดของ SEC และสร้างนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ภายใต้ท่าทีใหม่นี้ SEC ได้เริ่มชะลอหรือยุติหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโต ตัวอย่างเช่น คดีฟ้องร้องระหว่าง SEC และไบแนนซ์(Binance) ที่ถูกพักไว้เป็นเวลา 60 วัน เช่นเดียวกับคดีของคอยน์เบส(Coinbase) ซึ่งขณะนี้ได้รับโอกาสในการอุทธรณ์ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสัญญาณว่ากฎระเบียบของสหรัฐอาจเริ่มคลี่คลาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตของ DeFi และอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม
ความคิดเห็น 0