จ้าว ฉางเผิง(CZ) ผู้ร่วมก่อตั้งไบแนนซ์ ได้สร้างความสนใจในแวดวงคริปโตอีกครั้ง หลังออกมาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ *ธนาคารควรรับรองการใช้งานบีเอ็นบี(BNB)* ท่ามกลางราคาที่พุ่งสูงจนแซงหน้ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของธนาคารยูบีเอส(UBS) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อวันที่ 13 จ้าวโพสต์ผ่านบัญชี X (เดิมคือทวิตเตอร์) ของเขาว่า *บีเอ็นบีได้แซงยูบีเอส* และเรียกร้องว่า *“ถึงเวลาที่ธนาคารควรรับรองการใช้งานบีเอ็นบี”* แม้จะไม่ได้กล่าวถึงธนาคารใดโดยเฉพาะ แต่เขายังระบุชัดว่า พร้อมช่วยให้โลกการเงินแบบดั้งเดิมสามารถผสานเข้ากับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบีเอ็นบี
ข้อมูล ณ วันเดียวกันเผยว่า มูลค่าหลักทรัพย์ของยูบีเอส อยู่ที่ประมาณ 179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 248.3 ล้านล้านวอน) ขณะที่บีเอ็นบีพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 183,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 254.3 ล้านล้านวอน) ส่งผลให้บีเอ็นบี *แซงหน้าธนาคารยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์* ได้ในระยะสั้น แม้การเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตจะมีความผันผวนสูง แต่ก็มีความเห็นจากหลายฝ่ายว่า นี่อาจเป็น *สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระยะยาว*
บีเอ็นบียังเดินหน้าทำสถิติใหม่ โดยในวันที่ 13 ราคาขึ้นแตะระดับ *สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH)* ที่ 939 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านบาท) และในวันที่ 14 ก็ปรับขึ้นอีกแตะจุดสูงสุดใหม่ถึง 940 ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของบิตคอยน์(BTC) และความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน ถือเป็นอีกแรงผลักดันที่ทำให้บีเอ็นบียิ่งทวีความร้อนแรง
นอกจากนี้ จ้าวยังแชร์เหตุการณ์จากปี 2017 โดยมีผู้ใช้งานคนหนึ่งที่เคย *ลงทุนใน ICO ของไบแนนซ์เพียง 300 ดอลลาร์ (ประมาณ 41,700 บาท)* ปัจจุบันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ (ราว 347.5 ล้านบาท) เขาตอบกลับโพสต์ดังกล่าวสั้นๆ ว่า *“เลขกระเป๋าขอหน่อย?”* สื่อถึงทั้งความสนุกและความสนใจในตัวนักลงทุนรายนั้น
แม้ว่าจ้าวจะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของไบแนนซ์แล้ว แต่เขายังมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาเชิงนโยบายแก่รัฐบาลของหลายประเทศ เช่น ปากีสถานและคาซัคสถาน ซึ่งทำให้ทุกคำพูดของเขายังคงมีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาดคริปโตโลก
*ความคิดเห็น*: ท่าทีของจ้าวและสถานะของบีเอ็นบีในขณะนี้ ยากที่จะมองเป็นเพียงการขึ้นราคาทั่วไป เนื่องจากมีโอกาสกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงถึง *ความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ระเบียบสถาบันของบีเอ็นบี* หากธนาคารยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกสร้างโดยภาคเอกชนเช่นนี้จริง ๆ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโฉมวงการการเงินโลกในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0