บิตคอยน์(BTC) กลับมาพลิกแนวโน้มอีกครั้งหลังจากปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความคาดหวังว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวในไตรมาส 4 ตามรายงาน ‘อัลฟ่ารายงาน’ ล่าสุดจากแพลตฟอร์มบิทไฟเน็กซ์ รายงานระบุว่า การฟื้นตัวของแนวรับหลักและแรงซื้อบนเครือข่าย(ออนเชน) เป็นปัจจัยหนุนสำคัญของการฟื้นตัวทางเทคนิค ซึ่งสะท้อนสัญญาณว่าตลาดอาจผ่านพ้นช่วงซบเซาของเดือนกันยายนเรียบร้อยแล้ว
รายงานเผยว่าบิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หยุดการร่วงต่อเนื่องสามสัปดาห์ และกลับมายืนเหนือระดับ *112,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,637,000 บาท)* ได้สำเร็จ โดยปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่บริเวณ *115,550 ดอลลาร์ (ประมาณ 16,034,000 บาท)* แนวโน้มฟื้นตัวนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่บิตคอยน์ สะท้อนจากมูลค่ารวมของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่เพิ่มขึ้นราว *4.8%* หรือคิดเป็นประมาณ *180,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 25.02 ล้านล้านบาท)* ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
บิทไฟเน็กซ์มองว่าการฟื้นตัวครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่การดีดตัวระยะสั้นแต่เป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลยุทธ์ ‘ซื้อเมื่อย่อตัว (Buy the dip)’ ของนักลงทุนที่ยังคงทำงานได้ดี ปริมาณการสะสมเหรียญในช่วงราคาร่วงเพิ่มสูงขึ้น จึงเห็นการเคลื่อนไหวของเหรียญที่มีต้นทุนต่ำจากช่วงการเทขายครั้งก่อน ถูกหมุนเวียนกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งตามข้อมูลจากดัชนี *CBD (Cost Basis Distribution)*
การตอบสนองของนักลงทุนก็ถือว่าน่าจับตา บิตคอยน์เข้าสู่ช่วงราคาช่องว่างระหว่าง *108,000–116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,012,000–16,124,000 บาท)* หลังจากร่วงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย ณ ขณะนี้ ช่องว่างดังกล่าวได้ถูกปิดไปส่วนใหญ่ หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ *116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16,124,000 บาท)* ได้อย่างมั่นคง มีความเป็นไปได้สูงที่แนวโน้มขาขึ้นจะทรงพลังยิ่งขึ้น *ความคิดเห็น* ของนักวิเคราะห์ชี้ว่า การฝ่าแนวต้านดังกล่าวอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตอีกระลอก
ในมุมข้อมูลเชิงลึก ยังพบว่าผู้ถือเหรียญระยะสั้นเป็นแรงขายหลักของรอบการฟื้นตัวล่าสุด ในขณะที่ผู้ถือเหรียญระยะยาวยังคงสะสมต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงสร้างตลาดเชิงเทคนิคมีเสถียรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ถือมาแล้ว 3–6 เดือน มีการทำกำไรเฉลี่ยราว *189,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,121,000 บาท)* ต่อวันในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง **78%** ของผลตอบแทนรวมจากกลุ่มนักลงทุนระยะสั้น
หากบิตคอยน์สามารถผ่านระดับแนวต้านทั้งในแง่เทคนิคและจิตวิทยาได้สำเร็จ โอกาสที่ตลาดจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นตัวเชิงโครงสร้างก็จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่เดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงซบเซาฤดูกาลกำลังจะสิ้นสุดลง นักลงทุนกำลังติดตามการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์อย่างใกล้ชิด ยิ่งราคายืนเหนือแนวต้านได้ชัดเจน ก็ยิ่งเสริมความมั่นใจให้กับตลาดโดยรวม
ความคิดเห็น 0