ตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิตคอยน์(BTC) ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยสามารถสร้าง ‘ผลตอบแทนที่เหนือกว่า’ ตัวบิตคอยน์เอง ทั้งที่เผชิญกับต้นทุนสูงขึ้นและระยะเวลาคืนทุนจากการลงทุนในอุปกรณ์ที่ยาวนานขึ้น สถานการณ์นี้จึงกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากตลาดคริปโต
เมื่อวันที่ 24 แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต ‘เดอะ ไมเนอร์ แม็ก(The Miner Mag)’ เปิดเผยรายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัทขุดบิตคอยน์รายใหญ่หลายแห่ง อาทิ ไซเฟอร์ ไมนิ่ง($CIFR), เทรารูฟ($WULF), ไอริส เอเนอร์จี($IREN), ไฮฟ์ ดิจิทัล เทคโนโลยีส์($HIVE) และบิตฟาร์มส์($BITF) ปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยบางบริษัทมีอัตรา ‘พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 124%’ ขณะที่ภาพรวมการปรับขึ้นอยู่ระหว่าง 73% ถึง 124% ในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาบิตคอยน์กลับ ‘ลดลงกว่า 3%’ ส่งผลให้หุ้นของกิจการขุดเหล่านี้สร้างผลตอบแทนที่แท้จริงเหนือกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างบิตคอยน์อย่างชัดเจน
สิ่งที่น่าสนใจคือ การฟื้นตัวของราคาหุ้นครั้งนี้ไม่ได้มีข่าวดีเฉพาะใดๆ เป็นพิเศษในอุตสาหกรรม สวนทางกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากค่าไฟฟ้าที่สูง และการแข่งขันของพลังประมวลผลหรือ ‘แฮชเรต’ ที่ทวีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม การรุกขยายขนาดการดำเนินงานและกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทขุดบางแห่ง กลับสามารถจุดกระแสความคาดหวังของนักลงทุนได้ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ความเคลื่อนไหวนี้อาจสะท้อนถึง ‘การประเมินคุณค่าระยะยาวครั้งใหม่’ ของอุตสาหกรรมก่อนเข้าสู่เหตุการณ์ ‘บิตคอยน์ลดรางวัลครึ่งหนึ่ง’ หรือ Halving ในปีหน้า
นักวิเคราะห์จากภาคการเงินระบุว่า แม้อุตสาหกรรมการขุดยังคงมีความเสี่ยงตามแบบดั้งเดิม แต่บริษัทขุดรายใหญ่บางแห่งกำลังเสริมความแข็งแกร่งในตลาด และอาจกลายเป็น ‘แรงส่งสำคัญ’ ต่อการกลับเข้าสู่ตลาดกระทิง ตัวอย่างเช่น ไซเฟอร์ ไมนิ่ง และบิตฟาร์มส์ ได้ยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานผ่านการขยายศูนย์ข้อมูลและปรับปรุงข้อตกลงด้านพลังงาน ส่งผลให้ ‘อัตรากำไรจากการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างชัดเจน’
แม้ว่าบิตคอยน์จะปรับฐานในระยะสั้น แต่กลุ่มหุ้นเกี่ยวกับการขุดกลับโดดเด่นขึ้นเป็นทางเลือกของนักลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้โอกาสในการ ‘ประเมินมูลค่าภาคการขุดใหม่’ มีแนวโน้มสูง โดยเฉพาะหาก *ทรัมป์* ออกมากล่าวสนับสนุนบิตคอยน์อีกครั้ง ความหวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบก็อาจส่งอานิสงส์บวกสู่กลุ่มนี้ในวงกว้าง ความเห็นนี้ถือว่าน่าสนใจยิ่งในบริบทที่ความไม่แน่นอนด้านนโยบายและพลังงานยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ בחงล้อมอุตสาหกรรมคริปโตในระยะที่เหลือของปีนี้
ความคิดเห็น 0