เชบาเรียม(Shibarium) ซึ่งเป็นบล็อกเชนในเครือของเหรียญมีมชื่อดังอย่าง ชิบะอินุ(SHIB) ยังคงระงับการให้บริการบริดจ์ (Bridge Service) หลังเกิดเหตุแฮ็กครั้งใหญ่ โดยข้อมูลล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก คาล แดริยา(Kaal Dhairya) หนึ่งในนักพัฒนาหลักของโครงการ ผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ เขาระบุว่าเพื่อ ‘ปกป้องทรัพย์สินของผู้ใช้เป็นลำดับแรก’ ทีมงานจึงยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่จะเปิดใช้งานบริการบริดจ์อีกครั้ง และจะมีการอัปเดตผ่านช่องทางทางการในภายหลัง
เหตุการณ์แฮ็กครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน และได้รับการตรวจพบโดยบริษัทความปลอดภัยด้านบล็อกเชนอย่าง PeckShield พบว่าแฮ็กเกอร์ใช้ช่องโหว่ในระบบเพื่อขยายอิทธิพลในการควบคุมตัวตรวจสอบธุรกรรม ส่งผลให้คีย์ของวาลิเดเตอร์ 10 จาก 12 รายถูกขโมยไปและถูกนำไปใช้อนุมัติธุรกรรมปลอม ทำให้มีการถอนสินทรัพย์ไปอย่างไม่ถูกต้องเป็นมูลค่ารวมราว 2.3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 32 พันล้านวอน โดยมีเหรียญที่ได้รับผลกระทบรวมถึง อีเธอเรียม(ETH), ชิบะอินุ(SHIB) และโทเคนของโครงการชื่อ Roar(ROAR)
แม้เหตุการณ์จะมีความรุนแรง แต่ทีมงานของเชบาเรียมยังคง *ปิดบังรายละเอียดของวิธีการโจมตีและแผนรับมือ* เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆ ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดี ในช่วงเวลานี้ ทีมงานให้ความสำคัญกับการ *จำกัดความเสียหายและวางมาตรการป้องกันการเกิดซ้ำ* โดยยังไม่มีแผนดำเนินการชัดเจนในการกู้คืนสินทรัพย์ที่สูญหาย
คาล แดริยา ยังระบุเพิ่มเติมว่าหากความพยายามในการกู้คืนทรัพย์สินประสบความล้มเหลว ทีมพัฒนากำลังพิจารณา ‘ทางเลือกสำรอง’ หลายรูปแบบ เช่น การใช้เงินจากกองทุนของชุมชน การเผาเหรียญที่มีอยู่ หรือใช้กองทุนประกันภัยแยกต่างหาก อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาร่วมกับชุมชนภายหลังจากที่ระบบทั้งหมดได้รับการแก้ไขด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แล้ว
เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็น ‘สัญญาณเตือน’ ที่สำคัญสำหรับระบบนิเวศของชิบะอินุ เนื่องจาก *บริการบริดจ์ถือเป็นช่องทางหลักในการโอนสินทรัพย์ระหว่างบล็อกเชนต่างๆ* การฟื้นฟูบริการให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมกับการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มข้น จึงเป็น ‘ปัจจัยชี้ขาด’ ในการเรียกคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานในอนาคต
ความคิดเห็น 0