ไมค์ โนโวกราตซ์(Mike Novogratz) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกาแล็กซี ดิจิทัล เชื่อว่าราคา *บิตคอยน์(BTC)* อาจพุ่งสูงขึ้น หากมีการเปลี่ยนตัวประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยเฉพาะในกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์แต่งตั้งบุคคลที่มีแนวคิด ‘สายพิราบ’ เข้ามารับตำแหน่งต่อจากเจอโรม พาวเวลล์(Jerome Powell) ซึ่งอาจกลายเป็น ‘ตัวเร่งสำคัญ’ ที่หนุนให้ตลาดคริปโตกลับมาเป็นขาขึ้น
โนโวกราตซ์ให้สัมภาษณ์ผ่านช่องยูทูบ ‘Kyle Chasse’ โดยกล่าวว่า “หากเฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยโดยไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และประธานเฟดคนใหม่มีจุดยืนที่ชัดเจนในฝั่งสายพิราบ นั่นจะเป็น *ตัวกระตุ้นสำคัญของตลาดกระทิงในบิตคอยน์*” พร้อมเสริมว่าในสถานการณ์ดังกล่าว บิตคอยน์อาจแสดงให้เห็นถึงภาวะ ‘Blow-Off Top’ หรือการเร่งตัวขึ้นสั้น ๆ ในระดับสูงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ เขายังประเมินว่า ราคา *บิตคอยน์อาจพุ่งแตะระดับสูงถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.78 ล้านบาท)* หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง “หากสถานการณ์นี้กลายเป็นความจริง ตลาดจะเข้าสู่เฟสใหม่โดยสิ้นเชิง” โนโวกราตซ์ระบุ พร้อมเปิดโอกาสต่อ *แนวโน้มขาขึ้นในระดับสูงสุด* ของบิตคอยน์
อย่างไรก็ตาม เขาก็เผยความกังวลต่อ *ผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ* จากนโยบายการเงินที่เอนเอียงไปทางสายพิราบมากเกินไป “เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะผมรักประเทศสหรัฐอเมริกา” พร้อมเตือนว่าหากเฟดถูกใช้อิทธิพลทางการเมืองอาจสุ่มเสี่ยงต่อการบั่นทอน *ความเป็นอิสระของธนาคารกลาง*
โดยทั่วไป หากเฟดมีท่าทีสายพิราบ มักจะนำไปสู่ *การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์* ซึ่งกลายเป็นปัจจัยบวกต่อ *สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์* ขณะเดียวกัน สินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างพันธบัตรหรือบัญชีเงินฝากจะมีความน่าสนใจลดลง ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจโยกเงินเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น ความเห็นของโนโวกราตซ์สะท้อนให้เห็นว่า ทิศทางนโยบายการเงินของทรัมป์สามารถส่งผลต่อ *ตลาดคริปโตระดับโลก* ได้อย่างลึกซึ้ง ความเคลื่อนไหวในช่วงต่อไปจึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น 0