Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

วิกฤตรัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ ดันกระแสบิตคอยน์(BTC) ทางรอดสินทรัพย์กระจายศูนย์

วิกฤตรัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ ดันกระแสบิตคอยน์(BTC) ทางรอดสินทรัพย์กระจายศูนย์ / Tokenpost

รัฐบาลสหรัฐฯ ประสบภาวะ ‘ชัตดาวน์’ อีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 ที่เกิดกรณีนี้ขึ้นซ้ำ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวทางโครงสร้างของระบบราชการ และกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ผู้ใช้งานคริปโตใช้ในการเน้นย้ำถึงความสำคัญของสินทรัพย์ *แบบกระจายศูนย์* เช่น ‘บิตคอยน์(BTC)’ ที่ชุมชนคริปโตออกมาระบุว่าเป็นทางออก โดยใช้วลีที่ว่า *“Bitcoin Fixes This”*

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันในเรื่องร่างงบประมาณชั่วคราวได้ โดยร่างที่พรรครีพับลิกันเสนอได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ แต่ไม่สามารถผ่านวุฒิสภาซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากได้ ส่งผลให้พนักงานรัฐบาลกลางราว 750,000 คนต้องเข้าสู่สถานะ *พักงานโดยไม่มีค่าจ้าง* พร้อมกับบริการสาธารณะสำคัญอย่างอุทยานแห่งชาติและบริการทหารผ่านศึกที่ถูกสั่งปิดการให้บริการชั่วคราว ขณะที่พนักงานบางส่วนต้องทำงานต่อโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

จากสถานการณ์ดังกล่าว บุคคลใน *วงการคริปโตเคอร์เรนซี* ต่างแสดงความไม่พอใจต่อระบบแบบรวมศูนย์ที่ไร้ประสิทธิภาพ เท็ดดี ฟูซาโร(Teddy Fusaro) ประธานบริษัท *บิตไวซ์(Bitwise)* ระบุว่า *“ระบบนี้เองที่เป็นปัญหา เพราะสร้างวิกฤตการธนาคาร การอุ้มยักษ์ใหญ่ และความไม่มั่นคงในตลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า”* ขณะที่ เจก เชอร์วินสกี(Jake Chervinsky) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของบริษัท *เวเรียน(Varian)* เสริมว่า *“รัฐบาลสามารถใช้งบหลายล้านล้านดอลลาร์ได้ แต่กลับไม่รู้วิธีใช้เงิน”* ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า *“นี่แหละเหตุผลที่เราสนับสนุนคริปโต”*

ความคิดเห็นเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากความไม่พอใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนว่า ผู้สนับสนุนคริปโตเชื่อว่าการล้มเหลวของระบบรัฐและความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานแบบรวมศูนย์ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงคุณค่าของสินทรัพย์ *แบบกระจายศูนย์* อย่างบิตคอยน์ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานบางรายกล่าวว่า *“แม้รัฐบาลจะปิด แต่บล็อกเชนไม่มีวันหยุด”* และขอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน *ระบบการเงินปัจจุบัน*

ขณะเดียวกัน บิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มราคาสูงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดซื้อขายในระดับประมาณ 114,557 ดอลลาร์ หรือราว 1.59 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงระดับ *สูงสุดเป็นประวัติการณ์* การเติบโตนี้สะท้อนความต้องการของนักลงทุนที่หันหา *สินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง*

ทั้งนี้ กรณี ‘ชัตดาวน์’ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2018 ถึงต้นปี 2019 ก็เคยเกิดเหตุชัตดาวน์ที่ยาวนานถึง 35 วัน รวมถึงในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะสั้น และในภาพรวมได้กลายมาเป็นแรงผลักดันให้ *โครงสร้างทางการเงินทางเลือก* อย่างคริปโตเคอร์เรนซีได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้นในระยะยาว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

อีเธอเรียม(ETH) ฟื้นตัวทะลุ 4,100 ดอลลาร์ หลังรอดแรงเทขายเลเวอเรจกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) ส่งสัญญาณโกลเด้นครอส หลังสหรัฐฯ-จีนผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า

ไบแนนซ์แจงด่วน โทเคน IOTX, ATOM, ENJ แสดงราคาศูนย์ดอลลาร์แค่บั๊กไม่ใช่ตลาดล่ม

ธุรกรรมบนบล็อกเชนจ่อแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025 ดันระบบการเงินโลกสู่ยุคใหม่

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1