โคอินแชร์ส(CoinShares) บริษัทบริหารสินทรัพย์คริปโตที่มีฐานในยุโรป เดินหน้าขยายอิทธิพลในตลาดสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 (เวลาท้องถิ่น) บริษัทประกาศว่าได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัทลงทุนคริปโตในลอนดอนอย่าง แบสเชียน แอสเสท แมเนจเมนต์(Bastion Asset Management) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในยุทธศาสตร์นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
แม้ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการซื้อขาย แต่โคอินแชร์สยืนยันว่าข้อตกลงนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายใต้เงื่อนไขการอนุมัติจากสำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งสหราชอาณาจักร (FCA) โดยทางบริษัทวางแผนจะ *รวมระบบซื้อขาย บุคลากร และกลยุทธ์การลงทุนของแบสเชียนเข้ากับแพลตฟอร์มหลัก* เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเชิงรุก
โฆษกของโคอินแชร์สกล่าวว่า การรวม *ความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ซื้อขายของแบสเชียน* กับใบอนุญาตการลงทุนสหรัฐฯ ภายใต้ ‘พระราชบัญญัติบริษัทการลงทุนปี 1940’ จะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา *ผลิตภัณฑ์ลงทุนแบบเชิงรุกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดสหรัฐฯ* ซึ่งแตกต่างจากสินทรัพย์คริปโตที่เป็นแบบติดตามดัชนีทั่วไป
การเข้าซื้อครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบสนองต่อ *ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากนักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ* ที่กำลังมองหา *กองทุน ETF คริปโตแบบเชิงรุก (Active ETF)* ซึ่งต่างจากกองทุนแบบพาสซีฟที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่เน้นติดตามสินทรัพย์หลักอย่าง บิตคอยน์(BTC) หรือ อีเธอเรียม(ETH)
ถึงแม้โครงสร้างแบบเชิงรุกอาจมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็มี *โอกาสทำกำไรสูงขึ้น* หากบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ โคอินแชร์สระบุว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ “ถูกครอบงำด้วยผลิตภัณฑ์แบบพาสซีฟ” และกล่าวเสริมว่าสิ่งที่บริษัทตั้งเป้าคือการนำเสนอ “*ทางเลือกการลงทุนที่แม่นยำและหลากหลายยิ่งขึ้น*” ผ่านการควบรวมกิจการครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ โคอินแชร์สได้ประกาศเดินหน้าแผน *นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ* อย่างเป็นทางการ โดยการเข้าซื้อแบสเชียนถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอเมริกาอย่างจริงจัง นักวิเคราะห์ในวงการ คาดว่าโคอินแชร์สน่าจะเปิดตัว *กองทุน ETF คริปโตรุ่นใหม่สำหรับนักลงทุนสถาบันในสหรัฐฯ* เร็วๆ นี้
ความคิดเห็น 0