ซีเอ็มอี กรุ๊ป(CME) ตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในชิคาโก เตรียมนำระบบ ‘ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน’ มาใช้กับตลาดฟิวเจอร์สคริปโตอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
ซีเอ็มอี กรุ๊ปถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกของโลกการเงินดั้งเดิมที่เปิดประตูสู่ตลาดอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเริ่มจากการเปิดตัวบิตคอยน์(BTC) ฟิวเจอร์สในปี 2017 จากนั้นได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์สของเหรียญอื่น ๆ อย่างริปเปิล(XRP) และโซลานา(SOL) อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวออปชันที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ CME กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนสถาบันไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ สัญญาฟิวเจอร์สคริปโตของ CME สามารถซื้อขายได้เฉพาะในเวลาทำการแบบดั้งเดิมของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่สินทรัพย์อย่างบิตคอยน์แสดงให้เห็นถึงความผันผวนรุนแรงในช่วงเวลานอกตลาด ทั้งในช่วงกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างตลาดสปอตและฟิวเจอร์ส หรือที่มักเรียกกันว่า ‘ช่องว่างซีเอ็มอี (CME Gap)’ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีระบบซื้อขาย 24 ชั่วโมง ช่องว่างเหล่านี้อาจถูกขจัดไปได้ในที่สุด
ในวงการคริปโต การเคลื่อนไหวของ CME ถูกมองว่าเป็นหลักฐานอีกขั้นของการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดด้านเทคนิคหรืออินเทอร์เฟซการใช้งานใหม่ แต่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ตลาดที่เปิดตลอดเวลาบนแพลตฟอร์มที่มีขนาดใหญ่และเชื่อถือได้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่มี ‘ความสำคัญ’ ต่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้าง
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซีเอ็มอีได้เปิดให้ซื้อขายโซลานาและริปเปิลฟิวเจอร์สอย่างเป็นทางการ พร้อมรายงานว่าปริมาณการซื้อขายของทั้งสองเหรียญพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ยังต่อยอดไปสู่ความนิยมในสินค้าประเภท ‘ออปชัน’ และถูกมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่นำไปสู่การสร้างโครงสร้างตลาดใหม่ในครั้งนี้
ในช่วงที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเร่งความคาดหวังเกี่ยวกับการอนุมัติ ETF และบทบาทของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น การเปิดซื้อขายฟิวเจอร์สบิตคอยน์(BTC), โซลานา(SOL), และริปเปิล(XRP) ตลอดเวลา จึงอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วย ‘ยกระดับ’ สภาพคล่องและความเชี่ยวชาญในตลาด ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงของนักลงทุนทั่วโลกได้อย่างมี ‘นัยสำคัญ’
ความคิดเห็น 0