Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ZK-proof พลิกเกมความเป็นส่วนตัว: ทางรอดใหม่สู่การกำกับดูแลคริปโตโดยไม่ต้องเก็บข้อมูล

ZK-proof พลิกเกมความเป็นส่วนตัว: ทางรอดใหม่สู่การกำกับดูแลคริปโตโดยไม่ต้องเก็บข้อมูล / Tokenpost

เหตุการณ์การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 200 ล้านบัญชีจากการแฮกระบบเทคโนโลยีของยูไนเต็ดเฮลธ์ในปี 2025 เป็นเพียง *สัญญาณเตือน* แรกของวิกฤตความเป็นส่วนตัวระดับโลกเท่านั้น เพียงไม่นานหลังจากนั้น คอยน์เบสซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของสหรัฐก็ยอมรับว่า พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าต่างประเทศบางรายมีพฤติกรรมรับสินบนเพื่อนำข้อมูลผู้ใช้ไปขาย เหตุการณ์เหล่านี้ย้ำให้เห็นว่า *วิกฤติข้อมูลส่วนบุคคลมิใช่เพียงเรื่องภายในองค์กร แต่ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องทางโครงสร้างที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า*

แนวทางการกำกับดูแลด้านข้อมูลในปัจจุบันมีปัญหาใหญ่: *เน้นการเก็บข้อมูลมากกว่าการป้องกัน* ด้วยเหตุนี้บริษัทต่าง ๆ จึงถูกผลักดันให้สะสมข้อมูลจำนวนนับไม่ถ้วนจากผู้ใช้งาน ทำให้เซิร์ฟเวอร์กลายเป็นคลังสมบัติที่แฮกเกอร์ต้องการโจมตี และในหลายกรณีกลับกลายเป็น ‘ภาระ’ ที่บริษัทต้องแบกรับ แต่ด้วยข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล การเลือกเก็บน้อยก็ไม่ใช่ทางเลือก บริบทเช่นนี้เองที่ทำให้ *ความเป็นส่วนตัว* และ *การปฏิบัติตามกฎระเบียบ* ดูจะไม่อาจไปด้วยกันได้

แต่ปัจจุบันทิศทางเริ่มเปลี่ยน ความก้าวหน้าของ *เทคโนโลยีการพิสูจน์แบบไม่เปิดเผยข้อมูล (ZK-proof)* และ *ระบบยืนยันตัวตนแบบไร้ศูนย์กลาง (DID)* ช่วยให้สามารถพิสูจน์ตัวตนหรือคุณสมบัติต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเจาะจง เช่น ไม่ต้องบอกวันเกิดก็สามารถแสดงสถานะว่าเป็นผู้ใหญ่ หรือไม่ต้องเปิดเผยชื่อก็สามารถเข้าใช้บริการที่จำเป็นได้ ความเป็นส่วนตัวจึงไม่ใช่อุปสรรคในการปฏิบัติตามกฎหมายอีกต่อไป ในทางกลับกัน *กลายเป็นจุดแข่งสำคัญขององค์กร*

ในอดีตหลายบริษัทจำต้องกลายเป็นสถานที่เก็บข้อมูลโดยปริยาย เพื่อทำตามข้อกำหนดด้านการกำกับดูแล แต่โครงสร้างที่เน้นการสะสมข้อมูลเช่นนี้กลับกลายเป็นช่องโหว่สู่ภัยคุกคามอย่างการเจาะระบบหรือหลอกลวงข้อมูล การยืนยันตัวตนในบางรูปแบบที่ขาดประสิทธิภาพยิ่งตอกย้ำปัญหานี้ *โซลูชันจาก ZK-proof ช่วยเปลี่ยนรูปแบบจาก “กำกับผ่านการเก็บข้อมูล” เป็น “กำกับผ่านการคำนวณ”* ทำให้สามารถรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ พร้อมปฏิบัติตามข้อบังคับไปพร้อมกัน

ZK-proof ยังช่วยให้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารจริง ผู้ใช้สามารถเปิดเผยเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมารวมกับระบบวิเคราะห์ที่มีการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ก็ไม่จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลดิบจำนวนมากเข้าเซิร์ฟเวอร์อีกต่อไป และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลตามข้อบังคับได้แบบไร้ศูนย์กลาง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือรัฐบาลบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา นำ ZK-proof มาใช้กับแอปเมืองของตน ทำให้พลเมืองสามารถเข้าถึงบริการสำคัญโดยไม่ต้องเปิดเผยอายุหรือข้อมูลด้านสุขภาพอย่างการฉีดวัคซีน

ทุกวันนี้ *องค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวจะได้เปรียบในตลาด* เพราะสามารถสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้โดยไม่ต้องเก็บข้อมูลไว้อย่างถาวร แต่นำเสนอการยืนยันตัวตนเฉพาะเมื่อจำเป็น ผ่านเครื่องมืออย่างระบบรับรองข้อมูลจากเครือข่ายคาลิเมโร, ระบบ coSNARK ของทาเซโอ หรือ ZKPassport ที่สามารถพิสูจน์ข้อมูลสำคัญ เช่น สัญชาติ, อายุ, หรือที่อยู่ โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลภายนอก

แนวทางนี้ยังสอดคล้องกับแผนกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวทั่วโลกที่เน้นการจำกัดการเปิดเผยข้อมูล เช่น กฎหมาย GDPR ของสหภาพยุโรป, กฎหมาย DPA ของสหราชอาณาจักร และ CCPA ของแคลิฟอร์เนีย ในโลกที่การปฏิบัติตามข้อกำหนดและการรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์ต้องเดินคู่กัน *บริษัทที่สามารถกล่าวว่า “เราปฏิบัติตามทุกกฎ แต่อาจไม่รู้แม้แต่วันเกิดของคุณ” คือผู้ที่จะกุมชัยชนะในเกมการแข่งขัน*

คำถามสำคัญที่สุดในยุคนี้คือ ไม่ใช่ว่า "*เราสามารถปกป้องข้อมูลได้หรือไม่*" แต่คือ "*เราจะยังสามารถละเลยมันได้จริงหรือ?*" ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานกำกับดูแลและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องหันหลังให้กับวัฒนธรรม "เก็บทุกอย่าง" และหันไปหาการแบ่งปันเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น เพราะในวันนี้ *เทคโนโลยีพร้อมแล้ว แนวทางก็ชัดเจน และถึงเวลาต้องลงมือจริงแล้ว*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1