บิตคอยน์(BTC) สร้างสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยราคาทะลุระดับ *125,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.4 ล้านบาท)* ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น ปัญหาการ ‘ชัตดาวน์’ ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดว่า บิตคอยน์มีแนวโน้มแตะระดับ *150,000 ดอลลาร์ (ราว 20.8 ล้านบาท)* ภายในสิ้นปีนี้
การพุ่งขึ้นของราคาครั้งนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์ทะลุ *2.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,475 ล้านล้านบาท)* เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของคริปโต แสดงให้เห็นถึงการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในสินทรัพย์อื่น และหันมาให้ความสนใจบิตคอยน์ในฐานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ แหล่งข่าวจาก Cointelegraph รายงานเมื่อวันที่ 1 (เวลาท้องถิ่น) ว่า ตลาดได้เข้าสู่ ‘ช่วงสะสม’ อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
เบื้องหลังการวิ่งขึ้นของราคาครั้งนี้ คือการ ‘ชัตดาวน์’ ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 เหตุการณ์นี้ได้จุดกระแสความคาดหวังว่าทรัพย์สินดิจิทัลสามารถทำหน้าที่เป็น *แหล่งเก็บมูลค่า* ได้ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง ฟาเบียน โดรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของธนาคารซิกนัม ได้แสดงความเห็นว่า “ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์ดีดตัวขึ้น ซึ่งเคยเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาครั้งใหญ่ในอดีตเช่นกัน”
โดรียังเสริมว่า “ในภาวะที่สภาพคล่องในระบบยังคงสูง พร้อมกับการที่เศรษฐกิจกำลังเร่งเครื่องในภาคบริการ เราเห็นได้ว่าผลตอบแทนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้นและทองคำเริ่มเข้าใกล้กันมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้ช่วยดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้าสู่ตลาด”
อีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่ไม่อาจมองข้ามคือ การไหลเข้าของ *เงินทุนจำนวนมาก* หลังจากที่ ETF บิตคอยน์แบบสปอตได้รับการอนุมัติให้เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญของการเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก ประกอบกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ยังดำเนินอยู่ ทำให้หลายฝ่ายในตลาดคาดว่าบิตคอยน์จะกลับมาเป็นศูนย์กลางบนแผนที่การลงทุนระดับโลกอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
ความคิดเห็น 0