ไบแนนซ์ ประกาศลิสต์เหรียญน้องใหม่ 'อาสเตอร์(ASTER)' พร้อมเปิดซื้อขายสปอตแพร์แล้ว 3 คู่
อาสเตอร์(ASTER) เหรียญใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองในตลาดคริปโต กำลังจะเปิดให้ซื้อขายบนแพลตฟอร์มใหญ่อย่างไบแนนซ์ โดยเมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) ไบแนนซ์เผยว่าได้ลิสต์อาสเตอร์ในตลาดซื้อขายแบบสปอต โดยเริ่มต้นด้วยคู่ซื้อขาย ASTER/USDT, ASTER/USDC และ ASTER/TRY พร้อมแจ้งเตือนนักลงทุนด้วยการแนบ ‘แท็กซีด(seed tag)’ ซึ่งระบุว่าเป็นสินทรัพย์ประเภท ‘ความเสี่ยงสูง-ผลตอบแทนสูง’
การซื้อขายจะเปิดอย่างเป็นทางการในเวลา 21.00 น. โดยสามารถฝากเหรียญได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. และถอนเหรียญได้ตั้งแต่วันที่ 7 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป
กรณีนี้นับเป็นขั้นตอนสำคัญจากการที่อาสเตอร์ถูกทดลองซื้อขายผ่านตลาดอัลฟาบนไบแนนซ์ ซึ่งปัจจุบันได้ยกระดับสู่การซื้อขายแบบสปอตในตลาดหลัก ถือเป็นสัญญาณว่าตัวโครงการได้รับการพิสูจน์ถึงความต้องการและความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง โดยตลาดอัลฟาจะยุติการรองรับ ASTER หลังจากเปิดสปอตอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ที่ถือครองสามารถขายผ่านช่องทางเดิมได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะตลาดที่น่าจับตาเป็นพิเศษสำหรับอาสเตอร์ เนื่องจากเหรียญพุ่งขึ้นจากระดับราคา 0.09 ดอลลาร์ (ราว 125 บาท) ไปจนถึงจุดสูงสุดที่ 2.42 ดอลลาร์ (ราว 3,366 บาท) ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ หรือเพิ่มขึ้นราว 1,913% ทำให้ผู้ลงทุนในช่วงแรกสามารถทำกำไรได้สูงถึง 1,500% ปัจจุบันเหรียญมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2 ดอลลาร์ (ราว 2,780 บาท)
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เหรียญนี้มีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนที่ชื่นชอบความผันผวนและผลตอบแทนที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มอัลท์คอยน์ อย่างไรก็ดี ข้อควรระวังคือ ‘แท็กซีด’ ที่ระบุว่าเหรียญนี้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นคำเตือนสำคัญที่นักลงทุนควรตระหนัก
ในขณะเดียวกัน ไบแนนซ์เองก็ยังเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง โดยจะลอนช์ผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ส KGENUSDT แบบไม่มีวันหมดอายุ ในวันที่ 7 เวลา 23.30 น. พร้อมเสนอลีเวอเรจสูงถึง 50 เท่า อีกทั้งยังมีแผนปรับราคามาตรฐานของคู่ WBETH/ETH และ BNSOL/SOL ในวันที่ 14 ตุลาคม จาก “ราคาสปอต” เป็น “สัดส่วนอัตราแปลงจากการสเตก” สะท้อนยุทธศาสตร์ของไบแนนซ์ในการเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์และบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
‘อาสเตอร์’ อาจเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ทำให้เกมในตลาดอัลท์คอยน์เปลี่ยนไป และการลิสต์บนไบแนนซ์ในครั้งนี้ ย่อมเพิ่มแรงผลักดันให้โปรเจกต์เติบโตได้อีกขั้น แต่สุดท้ายแล้ว นักลงทุนยังจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วเช่นคริปโตเคอร์เรนซี
ความคิดเห็น 0