ลุค แดชจูเออร์(Luke Dashjr) นักพัฒนาหลักของบิตคอยน์(BTC) ออกมาเตือนอีกครั้งผ่านโซเชียลมีเดียว่า *บิตคอยน์ไม่ควรพึ่งพาบุคคลใดเพียงคนเดียว* โดยคำเตือนครั้งนี้เป็นการชี้ถึง ‘ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในระบบนิเวศของบิตคอยน์’ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งด้านเทคโนโลยีและภาวะผู้นำที่ขาดหายไป
แดชจูเออร์ระบุผ่านบัญชี X ของเขาว่า “แม้เรารอดจากการโจมตีของกลุ่ม Core30 ได้อีกครั้ง แต่การต้องคอย ‘กู้ชีพ’ บิตคอยน์ทุกไม่กี่ปีไม่ใช่วิถีที่ควรเป็น” พร้อมเน้นว่าบิตคอยน์ *ไม่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยความรับผิดชอบของบุคคลเดียว* และควรมีนักพัฒนามากขึ้นที่พร้อมรับบทบาทเชิงรุกในระบบ
แม้จะเป็นบุคคลที่มีมุมมองสุดโต่งในสายตาหลายคน แต่แดชจูเออร์เคยมีบทบาทสำคัญในการ ‘ช่วยชีวิต’ บิตคอยน์จากหลายวิกฤต อาทิ ในปี 2013 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เข้าจัดการปัญหาเชนแยกเพราะบั๊กด้านเงินเฟ้อ และในช่วงการถกเถียงเกี่ยวกับการฮาร์ดฟอร์ก ‘เซกวิท2x(SegWit2x)’ เขาคือตัวละครหลักที่ออกมาคัดค้านข้อเสนอดังกล่าวจนท้ายที่สุดแผนดังกล่าวถูกยกเลิก
ล่าสุดเขายังต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์อีกระลอก หลังมีข้อความรั่วไหลที่อ้างว่าเขาเสนอให้ฟอร์กบล็อกเชนของบิตคอยน์ย้อนหลังผ่านคณะกรรมการทรัสต์แบบมัลติซิก ซึ่งเขาได้ปฏิเสธโดยชี้ว่าเป็น “ข้อมูลเท็จที่ผ่านการตัดต่อ” เขายังคัดค้านการที่ทีมพัฒนาคอร์ของบิตคอยน์ปลดลิมิตเริ่มต้นของข้อมูล OP_RETURN โดยให้เหตุผลว่าอาจเปิดทางให้ข้อมูลไร้สาระแออัดอยู่ในบล็อกโดยไม่จำเป็น
แดชจูเออร์ยังได้แสดงการไม่เห็นด้วยกับฟีเจอร์ออดินัลส์และอินสคริปชัน โดยมองว่าอาจก่อให้เกิดภาระกับ UTXO หรือเอาท์พุตรายการที่ยังไม่ได้ใช้ เขาระบุว่าในขณะนั้นยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากเหตุการณ์โดนแฮ็ก จึงไม่สามารถออกมาแสดงจุดยืนได้ทันท่วงที
ถ้อยแถลงของแดชจูเออร์ครั้งนี้มิใช่เพียงการระบายความไม่พอใจ แต่สะท้อนถึง *ปัญหาด้านขาดแคลนบุคลากรในระบบนิเวศของนักพัฒนาบิตคอยน์* อย่างลึกซึ้ง ปัจจุบันจำนวนผู้พัฒนาลดน้อยลง เหลือเพียงไม่กี่คนที่กลายเป็นผู้ตัดสินทิศทางของโปรโตคอลและความปลอดภัยของเครือข่าย
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าคำเตือนเหล่านี้ควรถูกมองในฐานะ *การเรียกร้องให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทร่วมในการพัฒนา* เพราะหากจะรักษาแก่นแท้ของเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ บิตคอยน์จะต้องหลุดพ้นจากโครงสร้างที่ผูกติดอยู่กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
*บิตคอยน์ในฐานะสัญลักษณ์ของการกระจายอำนาจ* จำเป็นต้องมีระบบพัฒนาที่กระจายบทบาทอย่างแท้จริง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกในชุมชนพร้อมลุกขึ้นมามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ในช่วงที่ความตึงเครียดทั้งทางเทคนิคและสังคมเพิ่มสูงขึ้น เสียงเตือนจากแดชจูเออร์จึงอาจกลายเป็นชนวนสำคัญของการถกเถียงด้านธรรมาภิบาลในโลกบล็อกเชนต่อไป
ความคิดเห็น 0