ความผันผวนของ *บิตคอยน์(BTC)* กำลังอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปี หลังแถบ *Bollinger Bands* รายสัปดาห์หดแคบจนถึงระดับประวัติการณ์ สถานการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุน ที่กำลังจับตามองว่าราคาจะ 'ทะลุ' ออกไปทางใดในเร็วๆ นี้
ตามรายงานของนักวิเคราะห์ด้านเทคนิค โทนี เซเวริโน(Tony Severino) แม้ *บิตคอยน์* จะเคยพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 126,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.75 ล้านบาท) แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าระดับบนของแถบ Bollinger ได้สำเร็จ เขาชี้ว่าสัญญาณดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าราคาได้สะสมพลังจนถึงขีดสุด และอาจเกิด "การทะลุ" ราคาครั้งใหญ่ในเวลาไม่กี่วันหรือสัปดาห์ข้างหน้า
เซเวริโนเตือนว่าในสถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสเกิด ‘สัญญาณหลอก’ หรือ *Fake-out* ได้สูง การที่ราคาพุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ อาจเป็นเพียง 'เหยื่อล่อ' เท่านั้น เขายังทิ้งท้ายว่า *"อาจเห็นการหลุดลงอีกรอบเพื่อสร้างความสับสน ก่อนที่ราคาจะดีดกลับอย่างรุนแรง และเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นแบบพาราโบลิก (Parabolic) ได้"* อย่างไรก็ตาม เขาไม่ละทิ้งความเป็นไปได้ที่ *ตลาดขาขึ้นซึ่งลากยาวมานาน 3 ปี* อาจกำลังเข้าสู่จุดจบ
ด้านมาร์ก มอส(Mark Moss) หัวหน้านักกลยุทธ์ของ *แซตซึมะ เทคโนโลยี(Satsuma Technology)* มีมุมมองว่า ยังไม่ถึง 'จุดสูงสุดของรอบ' ของ *บิตคอยน์* เขาระบุว่าในตอนนี้ตลาดกำลังเผชิญ *ภาวะช็อกด้านอุปสงค์* จากการนำ ETF มาใช้และแนวโน้มที่บริษัทต่างๆ นำ *บิตคอยน์* ไปเก็บไว้ในบัญชีคลังสินทรัพย์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟดยังเดินหน้าเพิ่มสภาพคล่อง แทนที่จะใช้นโยบายเข้มงวด)
แม้จะอยู่ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเชิงเทคนิค แต่ *บิตคอยน์* ยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในเดือนตุลาคม ซึ่งนักลงทุนเรียกอย่างเล่นๆ ว่า *“อัปโทเบอร์(Uptober)”* โดยในเดือนนี้เพียงเดือนเดียว ราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 7% และจากสถิติย้อนหลัง 12 ปี *เดือนตุลาคมมีถึง 10 ครั้งที่ราคาปิดบวก* ตอกย้ำแนวคิดเรื่อง ‘ฤดูกาลดันราคา’ ที่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวถึง
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางรายมองว่า *วัฏจักรราคาของบิตคอยน์อาจกำลังเปลี่ยนแปลงไป* 'ไซโคเดลิก(Sykodelic)' นักวิเคราะห์บนเครือข่ายบล็อกเชนนิรนาม รายหนึ่งชี้ว่า วัฏจักร 4 ปี อาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถใช้อธิบายตลาดได้อีกต่อไป โดยประเมินว่าราคายังคงมี ‘โซนการขยายตัว’ (=Expansion Zone) รอคอยอยู่
อีกด้านหนึ่ง ‘แพลน บี(Plan B)’ ผู้สร้างโมเดลวิเคราะห์ S2F (Stock-to-Flow) แสดงท่าที *มองบวกชัดเจน* โดยระบุว่า *ระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.39 ล้านบาทจะกลายเป็น “แนวรับ”* แทนที่จะเป็นแนวต้าน เขาชี้ว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา *บิตคอยน์มีถึง 5 เดือนที่ราคาปิดในระดับ 6 หลัก* ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เป็นเสมือนจุดตัดระหว่างปัจจัยเชิงเทคนิคที่อัดตัวแน่น, การเปลี่ยนแปลงด้านอุปสงค์อุปทาน, และปัจจัยฤดูกาลที่เสริมสร้างโมเมนตัม บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความคาดหวัง จับตาว่าปัจจัยใดจะ 'ชนะใจตลาด' และนำพาราคา *บิตคอยน์* ให้ทะลุทะลวงในทิศทางใดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ความคิดเห็น 0