วิตาลิก บูเทอริน แสดงความเห็นเกี่ยวกับแผนงานของโครงการบล็อกเชน ‘โคฮาคุ(Kohaku)’ ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยประเมินว่าแนวทางของโครงการนี้ ‘ตอบโจทย์’ เป้าหมายหลักของการสร้างความเป็นส่วนตัวในระดับชั้นนำภายในระบบนิเวศของอีเธอเรียม(ETH) อย่างแท้จริง เมื่อวันที่ 24 บูเทอรินโพสต์ผ่านบัญชี X ของตนว่า “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวทั่วทั้งชุดเทคโนโลยีเป็นค่านิยมสูงสุดที่เรายึดถือ” พร้อมสนับสนุนทิศทางของโครงการอย่างชัดเจน
โคฮาคุ เป็นโครงการโอเพนซอร์สที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากกระเป๋าเงิน Web3 ‘แอมไบร์(Ambire)’ โดยมีเป้าหมายหลักในการผสานเทคโนโลยีศูนย์ความรู้เป็นศูนย์ (Zero-knowledge หรือ ZK) โดยนำโปรโตคอล ‘เรลกัน(Railgun)’ มาใช้ในการสร้างสมดุลระหว่างความโปร่งใสของข้อมูลออนเชนกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ทีมพัฒนาโคฮาคุยังมีแผนร่วมมือกับผู้ให้บริการกระเป๋าเงินรายอื่น เพื่อลดช่องว่างในการใช้งานและเพิ่มโอกาสในการถูกรับไปใช้งานจริง
ในปัจจุบัน โคฮาคุมีต้นแบบที่สามารถทำงานได้จริงแล้ว และได้เตรียมจัดการสาธิตอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่งาน ‘เดฟคอน(Devcon)’ ซึ่งจัดโดยมูลนิธิอีเธอเรียมเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ ตัวโปรเจกต์จะเปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ เพื่อจูงใจนักพัฒนาจากทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเพิ่มเติม
จุดเด่นของเทคโนโลยีเรลกัน คือสามารถ ‘รับประกันความเป็นส่วนตัว’ พร้อมกับการ ‘ยืนยันที่มาของเงินทุน’ ได้ในเวลาเดียวกัน บูเทอรินเคยชี้ว่า ในเหตุการณ์ถูกแฮ็กในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบนแพลตฟอร์ม zkLend ซึ่งพัฒนาอยู่บนสตาร์คเน็ต(Starknet) และสร้างความเสียหายกว่า 9.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 132 ล้านบาท) เทคโนโลยีลักษณะนี้สามารถช่วยติดตามผู้โจมตีได้ โดยอัลกอริธึมของเรลกันจะตรวจสอบที่มาของสินทรัพย์ก่อนการทำธุรกรรม ช่วยลดความเสี่ยงของการหมุนเวียนสินทรัพย์ที่ไม่โปร่งใส ถือเป็นเครื่องมือที่ ‘เสริมความมั่นคง’ ให้กับอีเธอเรียมในแง่ความปลอดภัย
ในชุมชนคริปโตเอง หลายฝ่ายมองว่า การแสดงความเห็นของบูเทอรินครั้งนี้ อาจกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ สำหรับการแก้ปัญหาความโปร่งใสกับความเป็นส่วนตัวอย่างสมดุลในเครือข่ายกระจายศูนย์ แนวทางล่าสุดนี้จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามเชิงเทคนิคของอีเธอเรียมในการขยับเข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ราคาอีเธอเรียม(ETH) ยังมีแนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้น โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดว่า อาจพุ่งขึ้นถึงระดับ 10,000 ดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านบาท) ได้ในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ราคาล่าสุดเมื่อวันที่ 24 อยู่ที่ 4,363 ดอลลาร์ (ประมาณ 606,000 บาท) ต่ำลง 3.1% ภายในวันเดียว ขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงเกือบ 22% เหลือ 43,580 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 60.5 ล้านล้านบาท) และ RSI ที่เคยเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไปก็เริ่มกลับตัวลง ส่วนระดับแนวต้าน 4,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 639,000 บาท) ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
การที่อีเธอเรียมกำลังพยายามคว้าทั้ง ‘ความปลอดภัย’ และ ‘ความเป็นส่วนตัว’ ด้วยโซลูชั่นใหม่ๆ เช่น โคฮาคุ ทำให้ทั้งนักพัฒนาและตลาดต่างจับตามองว่า โปรเจกต์นี้จะกลายเป็นอีกปีกหนึ่งของการเติบโตของอีเธอเรียมหรือไม่ ความคาดหวังจึงอยู่ที่ว่า มันจะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโตได้หรือไม่ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0