บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) แม้จะถูกยกให้เป็นสองเสาหลักของตลาดคริปโต แต่ทิศทางการปรับตัวขึ้นของทั้งสองสินทรัพย์ในปี 2025 กลับแสดงให้เห็นถึง *ความแตกต่างที่น่าสนใจ* บิตคอยน์ยังคงรักษาสถานะ ‘แกนหลักของตลาด’ ได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่อีเธอเรียมแม้มีแนวโน้มขาขึ้นเช่นกัน แต่ก็มีความเร็วในการปรับตัวที่ค่อนข้างช้ากว่า
ข้อมูลล่าสุดในปี 2025 แสดงว่าอีเธอเรียมปรับขึ้นราว 30% ตั้งแต่ต้นปี แซงหน้าบิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้นเพียง 25% โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ราคาของ ETH พุ่งขึ้นมากกว่าสองเท่า อย่างไรก็ตาม มุมมองระยะยาวยังคงบ่งชี้ว่าทิศทางราคาของบิตคอยน์ *มั่นคงและชัดเจน* กว่า
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้อีเธอเรียมแตกต่าง คือรูปแบบกลไก ‘การยืนยันธุรกรรมด้วยการวางหลักทรัพย์’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘PoS’ (Proof-of-Stake) ซึ่งต่างอย่างสิ้นเชิงจากบิตคอยน์ที่ใช้ระบบ ‘PoW’ (Proof-of-Work) การที่ผู้ถือ ETH สามารถทำสเตกเพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟ เปรียบเสมือนการรับ ‘ดอกเบี้ย’ ทำให้เกิดความจูงใจในการถือครองระยะยาว
ยิ่งไปกว่านั้น การจัดตั้งกองทุน ‘คลัง’ ภายในระบบนิเวศของอีเธอเรียมเมื่อไม่นานนี้โดยสถาบันอิสระ 2 แห่ง ทำให้เกิดแรงซื้อต่อเนื่องในตลาด และอาจช่วยสร้าง *ฐานรับสำคัญ* สำหรับความต้องการในระยะยาว
ในด้านมุมมองจากภาคการลงทุน สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้คาดการณ์ราคาเป้าหมายของ ETH ไว้ที่ 7,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี และอาจแตะ 25,000 ดอลลาร์ภายในปี 2028 ทั้งนี้ อีเธอเรียมมีการปรับขึ้นกว่า 59% เทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันและภาคธุรกิจ
*ขณะที่บิตคอยน์ยังยืนหยัดในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’* สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง และการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ แบล็คร็อกเคยกล่าวไว้ในปี 2024 ว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีภูมิต้านทานดีที่สุดในสภาพตลาดท่ามกลางวิกฤต ส่วนในด้านความปลอดภัย บิตคอยน์ยังไม่เคยถูกแฮ็กเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถือเป็น *ข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้าง* ของผู้เล่นระดับ Layer 1
แคธี วูด(Cathie Wood) ซีอีโอของ Ark Invest ก็เคยกล่าวชื่นชมบิตคอยน์ว่าเป็น "ระบบการเงินโลก" โดย Ark ยังลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ BTC อย่างไมโครสเตรทจี(MSTR) และถือครอง BTC โดยตรง โดยคาดว่าในปี 2030 บิตคอยน์อาจแตะระดับ 2.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 33.3 ล้านบาท
ในเชิงเทคนิค สัญญาณมากมายยังบ่งชี้ถึงแรงส่งเชิงบวกของบิตคอยน์ ค่าเฉลี่ย EMA 20 และ EMA 50 วัน ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น สนับสนุนการเข้าซื้อเมื่อมีจังหวะปรับฐาน โดยเฉพาะแนวรับสำคัญบริเวณ 115,000–117,000 ดอลลาร์ นั้นทำหน้าที่เป็นเขตสะสมราคา ขณะที่การทะลุ EMA 100 วันที่ระดับ 113,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายกันยายน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ที่เพิ่มแรงหนุนด้านเทคนิค
แม้มีการวิเคราะห์ว่าอีเธอเรียมอาจพุ่งแตะ 10,000 ดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้ แต่ความไม่แน่นอนบางอย่างยังไม่ได้ถูกรวมไว้ในราคา ขณะที่บิตคอยน์ยังคง *ครองใจนักลงทุนสถาบัน* และถูกใช้เป็น 'หลักอ้างอิง' ในการวัดพอร์ตการลงทุน ซึ่งทำให้ช่องว่างระหว่างสินทรัพย์ทั้งสองยากที่จะปิดลงได้ในเร็ววัน
แม้ว่าทั้งสองสินทรัพย์จะมีทิศทางราคาขาขึ้นในระยะยาว แต่ *แกนกลางของตลาดคริปโตในปี 2025* ยังคงเป็นของบิตคอยน์ นี่จึงเป็นอินไซต์การลงทุนที่สะท้อนภาพรวมของตลาดในปีนี้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0