ราคาของบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างรุนแรงถึงระดับ 102,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.41 ล้านบาท) หลังจากทรัมป์ประกาศเก็บ ‘ภาษีนำเข้าสินค้าจีน’ ที่อัตรา 100% ส่งผลให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเข้าสู่ภาวะความผันผวนขั้นรุนแรงอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 5 ตามรายงานของ Cointelegraph โครี คลิปสเตน(Cory Klippsten) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสวอนบิตคอยน์(Swan Bitcoin) ระบุว่า “หากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงดำเนินต่อไป ราคาบิตคอยน์น่าจะมีความผันผวนอีกสักระยะ ก่อนจะสามารถสร้างแนวโน้มที่ชัดเจนได้อีกครั้ง” พร้อมเตือนว่า นักลงทุนควรคาดการณ์ถึง *ความผันผวนระยะสั้นที่สูงมาก* โดยการลดลงของราคาในลักษณะนี้มักเกิดจากการ *ล้างพอร์ตที่มีการใช้เลเวอเรจสูง* และเป็นช่วงเริ่มต้นของการเตรียมตัวเข้าสู่รอบขาขึ้นครั้งใหม่
ข้อมูลจาก CoinGlass เผยว่า ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการปิดออเดอร์ฝั่ง ‘ซื้อ’ หรือ *Long Position* ในตลาดคริปโตทั้งหมดรวมกว่า 8.02 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะบิตคอยน์ มีการปิดตำแหน่งรวมสูงถึง 2.19 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.04 แสนล้านบาท)
ต้นตอของความตึงเครียดในตลาดครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากคำประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนของ *ทรัมป์* โดยคลิปสเตนระบุว่า การตอบโต้เรื่องภาษีระหว่างทรัมป์กับจีนได้สร้าง ‘แรงกระแทกมหภาค' ไปทั่วทั้งตลาด และส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน “นักลงทุนต่างพากันลดความเสี่ยงเหมือนคลื่นกระเพื่อมที่สั่นสะเทือนเศรษฐกิจโดยรวม” เขาระบุ
เรย์ แซลมอนด์(Ray Salmond) จากทีมมาร์เก็ตของ Cointelegraph เห็นด้วยว่า “แถลงการณ์ของทรัมป์ทำให้ตลาดคริปโตเผชิญแรงสั่นสะเทือนในวงกว้าง โดยเฉพาะนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงซึ่งไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงอย่างเพียงพอ”
*ความคิดเห็น:* ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นเครื่องย้ำเตือนที่ชัดเจนว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและการเมืองอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักลงทุนลดการใช้เลเวอเรจ และรักษาวินัยในการลงทุนในช่วงตลาดผันผวนเช่นนี้
ความคิดเห็น 0