ทอม ลี(Tom Lee) นักวิเคราะห์ชื่อดังจากวงการคริปโตได้เปิดเผยผ่านรายการของ CNBC เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ‘ทองคำ(Gold)’ ซึ่งกำลังพุ่งทำสถิติใหม่ อาจได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของ *สเตเบิลคอยน์* โดยเฉพาะ **เทเธอร์(USDT)** เขาระบุว่าเทเธอร์อาจเป็น ‘ผู้ซื้อลับ’ รายใหญ่ของตลาดทอง และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันดีมานด์ของทองคำในช่วงหลัง
คำกล่าวของลีเกิดขึ้นไม่นานหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราว 5.7 ล้านบาท เขาแสดงความเห็นว่าเมื่อเทเธอร์และสเตเบิลคอยน์อื่นๆ เติบโตในฐานะ ‘แหล่งเก็บมูลค่าขนาดใหญ่’ ก็อาจเข้ามาแทนที่ผู้ลงทุนในทองคำ หรือกลายเป็นเครื่องมือในการผสานการลงทุนระหว่างทองกับบิตคอยน์(BTC) พร้อมเสริมว่า “*สเตเบิลคอยน์กำลังเป็นจุดเชื่อมระหว่างนักลงทุนทองคำกับคริปโต และยังช่วยดูดซับสภาพคล่องจากทั้งสองตลาด*”
ในขณะที่เส้นแบ่งระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมกับคริปโตเริ่มเลือนลาง ตลาดอนุพันธ์ของคริปโตกลับเผชิญกับความผันผวนอย่างหนัก ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม มีการล้างพอร์ตในตลาดอนุพันธ์คิดเป็นมูลค่ากว่า 19.16 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 26.6 ล้านล้านวอน อย่างไรก็ตาม ลีให้ความเห็นว่า "ตัวเลขเหล่านี้อาจต่ำกว่าความเป็นจริงมากถึง *4 เท่า* เนื่องจากแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Binance กำหนดข้อจำกัดการแสดงผลของข้อมูลล้างพอร์ตรายวินาที"
นอกจากนี้ เขายังแสดงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้น แม้เพิ่งเผชิญแรงเทขาย เขาประเมินว่าการร่วงครั้งนี้อาจเป็น “***การสะสมพลัง*** เพื่อดีดตัวกลับในอนาคตอันใกล้” พร้อมคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P500 อาจพุ่งขึ้นได้อีกกว่า 200 จุดภายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยอ้างอิงจากภาวะตลาดที่ยังไม่ร้อนแรงจนเกินไป
บทวิเคราะห์ของทอม ลีถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า *สเตเบิลคอยน์อาจพัฒนาไปไกลกว่าการเป็นเพียงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน* โดยกลายสภาพเป็นเครื่องมือจัดเก็บมูลค่าในระดับสากล คล้ายกับทองคำหรือแม้แต่สินทรัพย์ดิจิทัลหลัก ๆ การเติบโตของสเตเบิลคอยน์จึงอาจเป็นตัวเร่งสำคัญในการเชื่อมโลกของการเงินแบบเก่ากับระบบการเงินดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0