บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคา โดยมีแนวต้านและแนวรับบริเวณ 108,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ทิศทางในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การปรับโครงสร้างตลาดอนุพันธ์ การคลี่คลายภาวะเศรษฐกิจมหภาค และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 24 นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ โจ คอนโซร์ติ(Joe Consorti) ให้ความเห็นว่า ตลาดบิตคอยน์ปีนี้อยู่ในสภาวะ "ปรับโครงสร้าง" ระหว่างตลาดซื้อขายจริงและตลาดอนุพันธ์ โดยปริมาณการขายแบบกระจายจากนักลงทุนระยะยาว รวมถึงการล้างโพซิชันครั้งใหญ่ในตลาดอนุพันธ์ ได้รีเซ็ตสภาพตลาดอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมชี้ว่า แนวขายหนักในช่วงราคา 100,000–110,000 ดอลลาร์ และแรงกดดันจากนโยบายเข้มงวดของประเทศต่างๆ คืออุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคา
สำหรับปัจจัยที่อาจผลักดันให้บิตคอยน์รีบาวด์ช่วงปลายปี มีอยู่สามข้อหลัก ได้แก่ หนึ่ง - สหรัฐฯ กำลังฟื้นฟูกิจกรรมภาครัฐหลังภาวะชัตดาวน์กว่า 3 สัปดาห์ สอง - การเจรจาปรับแก้ภาษีระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน อาจช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก และสาม - ความคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ทำให้ตลาดมีแรงซื้อกลับเข้ามามากขึ้น คอนโซร์ติเสริมว่า “หากความผันผวนคลี่คลาย และนักลงทุนเริ่มยอมรับความเสี่ยงอีกครั้ง ก็มีโอกาสสูงที่บิตคอยน์จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวก่อนสิ้นปี”
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งภายในปีนี้ และอีกหนึ่งครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ นักลงทุนอย่าง เฟรด ครูเกอร์(Fred Krueger) ระบุว่า “การลดดอกเบี้ยรอบต่อไปจะเกิดขึ้นในอีก 6 วัน จากนั้นอีกครั้งในอีก 48 วัน และครั้งสุดท้ายในอีก 97 วัน ซึ่งหลังจากที่ประธาน Fed คนใหม่เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม อาจมีสัญญาณของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นปรากฏออกมา”
นักเทรด Stockmoney Lizards ให้ความเห็นว่า “สัญญาณเตือนด้านเทคนิคล่าสุดยังไม่แสดงความกังวล” แม้จะมีแรงขายระยะสั้น แต่แนวโน้ม *ขาขึ้น* ในระยะกลางและยาวยังคงอยู่ พร้อมแนะนำให้ใช้จังหวะราคาปรับฐานเป็นโอกาสเข้าซื้อเพิ่ม
ด้านนักเทรด Daan Crypto Trades ชี้ว่า หากมูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์คริปโตยังคงอยู่ที่ระดับ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,282 ล้านล้านบาท ตลาดโดยรวมยังคงมีแนวโน้มทรงตัวแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การย่อตัวรุนแรงในช่วงที่ผ่านมาอาจช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักลงทุน
แม้ว่าทิศทางระยะสั้นถึงกลางของบิตคอยน์จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แต่หลายปัจจัยระดับมหภาค เช่น นโยบายของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย และผลการประชุมผู้นำระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจกลายเป็น ‘ตัวเร่ง’ ให้ตลาดฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น หากไม่มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น การปรับจุดยืนของนักลงทุนเพื่อเตรียมรับขาขึ้นในปีหน้า อาจเริ่มแสดงตัวชัดเจนเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายปีนี้
ความคิดเห็น 0