ญี่ปุ่นกำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโอเพน เฮาส์ กรุ๊ป(Open House Group) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ได้เริ่มนำร่องการชำระเงินด้วย ‘บิตคอยน์(BTC)’ และ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ที่ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สะดวกขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของโอเพน เฮาส์ กรุ๊ป คือเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นและอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งทำให้ประเทศนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักลงทุนทั่วโลก หากการทำธุรกรรมผ่านคริปโตเคอเรนซีสามารถลดข้อจำกัดของการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศได้ ก็จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น
การนำคริปโตเคอเรนซีมาใช้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการเงินแบบเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจช่วยลดความซับซ้อนในเรื่องของกระบวนการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และทำให้การซื้อขายสินทรัพย์มูลค่าสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์, เรือยอชต์ และงานศิลปะ สามารถทำได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาคริปโตเคอเรนซียังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล เนื่องจากมูลค่าของบิตคอยน์และอีเธอเรียมอาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ การตั้งราคาด้วย ‘สเตเบิลคอยน์’ หรือใช้ระบบคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรม
ขณะเดียวกัน ธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิมอาจเผชิญกับแรงกดดันจากแนวโน้มใหม่นี้ เนื่องจากหากการใช้คริปโตเคอเรนซีในภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว อาจลดความจำเป็นในการใช้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น การโอนเงินระหว่างประเทศหรือสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของสถาบันการเงิน สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องเข้ามากำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติม รวมถึงอาจมีการพิจารณากลไกเก็บภาษีใหม่สำหรับธุรกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต
ยังต้องติดตามต่อไปว่า การริเริ่มของโอเพน เฮาส์ กรุ๊ป จะกลายเป็นเทรนด์ระยะยาวในญี่ปุ่นและขยายไปยังประเทศอื่นหรือไม่ หากตลาดตอบรับแนวทางนี้ดี อาจนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ ‘สมาร์ตคอนแทรคต์’ เพื่อจัดการกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ หรือการผสาน ‘ดีไฟน์(DeFi)’ เข้ากับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมระบบการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้คริปโตเคอเรนซีในการชำระเงิน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการหลอมรวมกันของภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ตลาดเหล่านี้พัฒนาไปในทิศทางใหม่ บิตคอยน์และอีเธอเรียมจะสามารถเป็นที่ยอมรับในฐานะเครื่องมือชำระเงินหลักในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่ และแนวโน้มนี้จะขยายไปสู่เวทีอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกหรือเปล่า เป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0