ในปี 2025 โครงการเลเยอร์ 2 แบบแยกส่วน ‘แมนเทิล(Mantle)’ ของเครือข่าย *อีเธอเรียม(ETH)* กำลังเร่งสร้างระบบการเงินแบบออนเชนเต็มรูปแบบ ผ่านกลยุทธ์การรวมโครงสร้างพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์ และการกำกับดูแลไว้ภายใต้ระบบ DAO เพียงหนึ่งเดียว ตามรายงานล่าสุดจาก *อาเลีย รีเสิร์ช(Alea Research)* เมื่อไม่นานมานี้ แมนเทิลใช้โครงสร้างโรลอัปประสิทธิภาพสูงผสานกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบ DAO เพื่อเร่งการสร้างระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเหรียญประจำเครือข่าย ‘MNT’
แมนเทิลถือกำเนิดจากการควบรวมเข้ากับ *บิทดาโอ(BitDAO)* โดยในปัจจุบันได้พัฒนาองค์ประกอบหลัก 6 ด้าน ได้แก่ โครงข่าย L2, โปรโตคอลสร้างรายได้ ‘mETH’, กองทุนโทเค็น MI4, โปรโตคอลแรพบิตคอยน์ ‘FBTC’, แอปสมาร์ตแบงกิ้ง ‘UR’ และโครงการ AI ‘MantleX’ ทั้งนี้ โครงการ L2 ของแมนเทิลที่ใช้ *OP Stack* ซึ่งรองรับ EVM ได้มีการอัปเกรดระบบให้รองรับการตรวจสอบด้วย ZK ทำให้สามารถลดระยะเวลายืนยันธุรกรรมได้ถึง 168 เท่า อาเลีย รีเสิร์ชแสดงความเห็นว่า การยกระดับนี้ช่วยให้แมนเทิลสร้างความแตกต่างจากเลเยอร์ 2 อื่นๆ ได้ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและค่าธรรมเนียม
ในด้านความพร้อมของข้อมูล แมนเทิลได้รวมระบบ *EigenDA* เพื่อรองรับการเข้าถึงข้อมูลให้มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยอมรับถึงความเสี่ยงของการใช้ซีเควนเซอร์เดี่ยวในปัจจุบันและวางแผนปรับโครงสร้างไปสู่ระบบที่ไม่รวมศูนย์ ขณะเดียวกัน ด้วยการใช้ ZK และการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างต้นทุนดำเนินงานของแมนเทิลอยู่ในจุดที่ค่อนข้างได้เปรียบ โดย ณ ปี 2025 มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อกอยู่บนเครือข่าย(TVL) ใกล้แตะ 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่มีนัยสำคัญในสาย *ดีไฟน์(DeFi)*
โทเค็น ‘MNT’ ทำหน้าที่เป็นฮับสำคัญของระบบ ไม่เพียงทำหน้าที่เสมือนค่าแก๊สบนเครือข่ายอีเธอเรียม แต่ยังมีบทบาทในด้านการกำกับดูแลและการเงินของ DAO ขณะนี้มีอุปทานรวม 6.2 พันล้านเหรียญ โดย 51% หมุนเวียนอยู่ในตลาด ส่วนอีก 49% อยู่ในความดูแลของคลัง DAO ที่ปัจจุบันถือครองสินทรัพย์มากถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์และใช้เป็นทุนตั้งต้นให้กับโปรโตคอลที่สำคัญอย่าง mETH, MI4 และ FBTC โดยในกรณีของ MI4 DAO ได้อัดฉีดเงินสนับสนุนถึง 400 ล้านดอลลาร์ในช่วงเริ่มต้นเพื่อเร่งขยายขนาดสินทรัพย์
อีกจุดแข็งของแมนเทิลคือการรวมระบบเข้ากับ *บายบิท(Bybit)* อย่างลึกซึ้ง โดย MNT ถูกใช้ในหลายฟีเจอร์ของแพลตฟอร์ม เช่น การชำระค่าธรรมเนียม การปรับระดับ VIP โปรแกรม Earn บัตรจ่ายเงิน และการแปลงเป็นสกุลเงินจริง ซึ่งช่วยสร้าง ‘ยูทิลิตี้’ ให้กับเหรียญ MNT อย่างแท้จริง ความคิดเห็นจากอาเลีย รีเสิร์ช มองว่านี่เป็นโมเดลที่คล้ายกับของ *โทเค็น BNB* ของแพลตฟอร์ม Binance ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของ MNT
สินทรัพย์เด่นอีกตัวของแมนเทิลคือ ‘mETH’ โทเค็นลิควิดสเตกกิ้ง ที่ทำหน้าที่เป็นใบเสร็จรับรายได้จากเชน L1 ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มสภาพคล่องบน L2 โดยในปี 2025 TVL ของ mETH อยู่ที่ราว 960 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะลดลงกว่า 56% จากระดับสูงสุดในอดีต แต่ก็ยังครองตำแหน่งศูนย์กลางของกิจกรรมสร้างรายได้บนเชน
ในด้านเทคโนโลยี แมนเทิลยังเปิดตัว ‘MantleX’ ที่รวบรวมระบบจัดการ DAO แบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคลัง, วิเคราะห์ระบบนิเวศ และบริการแก่ผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและขยายศักยภาพของระบบ DAO ในระยะยาว นอกจากนี้ ส่วนประกอบอื่นในเครือข่ายอย่าง MI4, FBTC และแอป UR ก็ถูกรวมอยู่ในโครงสร้างเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แมนเทิลสามารถวางตัวเป็น ‘เครือข่ายสินทรัพย์ครบวงจร’ อย่างครบองค์ประกอบ
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ อาเลีย รีเสิร์ช รายงานว่า การพึ่งพาทุนสนับสนุนจากคลังสูงเกินไปอาจกระทบต่อความยั่งยืน หากไม่สามารถดึงดูดทุนจากภายนอกหรือผ่านเกณฑ์ PMF ได้ รวมถึงการขาดนโยบายควบคุมอุปทานอย่างชัดเจนก็ถือเป็นความเสี่ยงอีกประการเช่นกัน นอกจากนี้ ขนาดของเครือข่ายที่ยังเล็กเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มดีไฟน์รายใหญ่ๆ ก็อาจจำกัดการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แมนเทิลยังคงเดินหน้าสร้างเสถียรภาพผ่านกองทุนระบบนิเวศขนาด 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจัดการร่วมกับ *มีรานา เวนเจอร์ส(Mirana Ventures)* เพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงการใหม่ อีกทั้งการผนวกฟังก์ชันกับแพลตฟอร์มบายบิทยังช่วยขยายการใช้งานจริงของเหรียญ MNT และในกรณีที่มีการออกนโยบายซื้อคืนในอนาคต อุปทาน MNT ที่คงที่อยู่แล้วก็จะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจกระตุ้นแรงซื้อและสร้างความยืดหยุ่นในด้านอุปทานได้ในระยะยาว
กล่าวโดยสรุป แมนเทิลคือหนึ่งในตัวอย่างของแพลตฟอร์มที่พยายามควบคุมความเสี่ยงจากโครงสร้างการกำกับดูแล โครงสร้างพื้นฐาน และโปรโตคอลต่างๆ อย่างมีแบบแผน การผลักดันแนวคิด ‘เครือข่ายสินทรัพย์แบบครบวงจร’ ว่าจะสามารถกลายเป็นต้นแบบของระบบเศรษฐกิจคริปโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่นั้น กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดในวงการ.
ความคิดเห็น 0