สหภาพยุโรป(EU) เตรียมจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลกลางลักษณะเดียวกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมกิจกรรมของตลาดทุนอย่างเป็นระบบ รวมถึง ‘บริการสินทรัพย์ดิจิทัล’ และ ‘ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโต’ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนยุโรป ท่ามกลางข้อจำกัดจากระบบการกำกับที่แตกแยกตามแต่ละประเทศในกลุ่ม
เมื่อวันที่ 6 Financial Times รายงานว่าสหภาพยุโรปกำลังผลักดันการขยายอำนาจของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์ยุโรป(ESMA) เพื่อให้มีสิทธิกำกับดูแลโดยตรงต่อ ‘ตลาดหลักทรัพย์’, ‘แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต’, และ ‘ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล(CASP)’ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการซื้อขายอื่น ๆ
ปัจจุบัน ตลาดทุนใน EU ถูกควบคุมโดยหน่วยงานในแต่ละประเทศ ทำให้เกิด ‘ต้นทุนสูง’ และ ‘ความไร้ประสิทธิภาพ’ เมื่อต้องดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดน รายงานระบุว่า ความยุ่งยากเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อบริษัทสตาร์ทอัพและองค์กรที่ต้องการขยายกิจการภายในสหภาพ
ความพยายามในครั้งนี้ได้รับแรงสนับสนุนจาก คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่เคยระบุไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า “การสร้างหน่วยงานแบบ SEC ของยุโรปอาจเป็นคำตอบหนึ่ง” และเห็นว่า ESMA ควรมีอำนาจกำกับดูแลแบบรวมศูนย์ เพื่อป้องกัน ‘ความเสี่ยงเชิงระบบ’ ที่อาจเกิดจากกลุ่มธุรกิจข้ามชาติรายใหญ่
เบื้องต้นคาดว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่ร่างข้อเสนอเบื้องต้นภายในเดือนธันวาคม โดยเนื้อหาของร่างดังกล่าวจะรวมถึงการให้อำนาจ ESMA ในการตัดสินข้อพิพาทระหว่างองค์กรต่าง ๆ และสามารถออกคำตัดสินที่มี ‘ผลทางกฎหมาย’ ได้ แม้จะไม่ได้เข้าไปกำกับดูแลโดยตรง
*คำสำคัญ*: หน่วยงานกำกับดูแล, ESMA, การควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล
ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดสหรัฐถูก SEC ปราบปรามอย่างเข้มข้น สหภาพยุโรปกำลังเลือกแนวทางที่มี ‘ความชัดเจน’ และ ‘เป็นหนึ่งเดียว’ มากกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทด้านคริปโตต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางใหม่
ความคิดเห็น: การเดินหน้าจัดตั้งหน่วยงานกำกับรวมศูนย์ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูประบบตลาดทุนยุโรป และ ‘เพิ่มความน่าเชื่อถือ’ ต่อการนำคริปโตเข้าสู่กรอบกฎหมาย สอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการบูรณาการตลาดทุนยุโรป (CMU) ที่ต้องการยกระดับภาพรวมระบบการเงินให้มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้
สุดท้าย หากข้อเสนอนี้ผ่านความเห็นชอบ จะกลายเป็น ‘มาตรฐานสำคัญ’ สำหรับการกำกับดูแลคริปโตในระดับโลก และอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่น ๆ ปรับโครงสร้างกำกับที่สอดคล้องมากขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0