ริชาร์ด เทง(Richard Teng) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบแนนซ์(Binance) ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่นว่าแพลตฟอร์มของเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกใช้สเตเบิลคอยน์ของบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเน้นว่าไบแนนซ์ไม่มีส่วนในการตัดสินใจใช้สเตเบิลคอยน์ USD1 ในการทำธุรกรรมขนาดใหญ่
เมื่อวันที่ 4 ตามเวลาท้องถิ่น CNBC รายงานว่า การนำ *USD1* ซึ่งออกโดยบริษัท *เวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล(World Liberty Financial)* ไปใช้ในข้อตกลงการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 72,000 ล้านบาท) ของบริษัทลงทุนรายใหญ่จากอาบูดาบีอย่าง *MGX* นั้น เป็นการตัดสินใจของ MGX เองทั้งสิ้น เทงกล่าวว่า “การที่ MGX เลือกใช้ USD1 ในการทำธุรกรรมในฐานะนักลงทุนเชิงกลยุทธ์รายใหม่ เป็นการตัดสินใจของพวกเขา และเราไม่ได้มีส่วนร่วมกับการตัดสินใจนั้น”
คำชี้แจงของเทงมีขึ้นหลังเกิดกระแสคาดเดาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง หลังจากทรัมป์ประกาศนิรโทษกรรมให้กับ *จ้าว ชางเผิง(Changpeng Zhao หรือ CZ)* ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการจำคุกหลังยอมรับผิดเรื่องการละเมิกกฏการป้องกันฟอกเงินของสหรัฐ พร้อมตกลงยอมจ่ายค่าปรับราว 4.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 158,000 ล้านบาท)
กรณีดังกล่าวเริ่มเป็นประเด็นเมื่อการลงทุนของ MGX ในไบแนนซ์ถูกเปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีการใช้สเตเบิลคอยน์ USD1 เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม และยิ่งถูกจับตาหนักขึ้นเมื่อ *เอริก ทรัมป์* บุตรชายคนรองของทรัมป์ ปรากฏชื่อในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งเวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล ความเชื่อมโยงนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าครอบครัวของทรัมป์อาจได้รับประโยชน์ทางการเงินจากข้อตกลงนี้ จนอาจเข้าข่าย *‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’* หรือแม้แต่ *‘การนิรโทษกรรมแลกผลตอบแทน’*
ก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไบแนนซ์กับวงในของทรัมป์ก็ถูกส่องกล้องแล้วเช่นกัน โดย Bloomberg รายงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมว่า ไบแนนซ์มีส่วนในการพัฒนาโค้ดบางส่วนของ USD1 โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อถึง 3 ราย อย่างไรก็ตาม CZ ออกมาปฏิเสธผ่านโซเชียลมีเดียทันที พร้อมระบุว่าเขากำลังพิจารณาฟ้องร้องสื่อที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
แม้เทงจะพยายามยืนกรานว่าไบแนนซ์ดำเนินงานอย่างอิสระและโปร่งใส แต่ความเกี่ยวข้องระหว่างโลกการเงินดิจิทัลกับการเมือง ยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหว และกรณีนี้ก็สะท้อนถึงความท้าทายด้าน *‘ความโปร่งใสของการกำกับดูแล’* ในอุตสาหกรรมคริปโตที่กำลังเป็นจุดจับตาระดับโลก
ความคิดเห็น 0