เครือข่ายทรอน(TRON) ยืนยันสถานะผู้นำในวงการคริปโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2025 ด้วยตัวชี้วัดเศรษฐกิจและกิจกรรมบนเชนที่เติบโตอย่างน่าทึ่ง ตามรายงานของเมซารี รีเสิร์ช(Messari Research) มูลค่าตามราคาตลาดของทรอนเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อนหน้า แตะระดับ 31,600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้รวมสำหรับไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 30.5% นับเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเครือข่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่าง ‘แตกต่าง’ จากตลาดทั่วไปในลักษณะของ ‘เศรษฐกิจแบบลดเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง’
หนึ่งใน *แรงขับเคลื่อนหลัก* ของเครือข่ายทรอนได้แก่ การเติบโตของภาคดีไฟน์(DeFi) และการขยายตัวของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยมูลค่าสินทรัพย์รวมที่ถูกล็อกไว้(TVL) เพิ่มขึ้น 34.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 6,200 ล้านดอลลาร์ โดยโครงการ ‘JustLend’ และ ‘SUN Protocol’ เป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศโดยรวม ครองสัดส่วนมากกว่า 99% ของ TVL ทั้งหมด อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญคือ การเปิดตัว SunPerp แพลตฟอร์มอนุพันธ์แบบไม่มีวันหมดอายุ ที่มียอดมูลค่าการซื้อขายสะสมหลังเปิดให้บริการไม่นานถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าทรอนกำลังขยายเครือข่ายไปไกลกว่าบริการ AMM ไปยังตลาดอนุพันธ์อย่างจริงจัง
ด้านกิจกรรมบนเชนก็เติบโตเช่นเดียวกัน กระเป๋าเงินที่ใช้งานประจำวันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.52 ล้านบัญชี ขณะที่ปริมาณธุรกรรมต่อวันอยู่ที่ 8.94 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 3.8% ทรอนใช้สถาปัตยกรรมของเครื่องเสมือนทรอน(TVM) ที่รองรับระบบค่าธรรมเนียมเฉพาะตัวแบบ ‘พลังงาน’ และ ‘แบนวิธ’ ขณะที่ยังสามารถทำงานร่วมกับ EVM ได้อย่างราบรื่น จุดเด่นนี้เอื้อต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันต้นทุนต่ำและความเร็วสูง ส่งผลให้ดึงดูดนักพัฒนาและพันธมิตรได้มากขึ้น
แม้บางส่วนของระบบจะเผชิญแรงต้าน เช่น กลุ่มสเตเบิลคอยน์ ที่มูลค่ารวมลดลง 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 76,400 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากการลดลงของปริมาณเหรียญ USDT อย่างไรก็ตาม USDT ยังครองสัดส่วนถึง 99.1% ของสเตเบิลคอยน์ภายในทรอน และ 42.7% ของอุปทานทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความเหนือชั้น’ ในตลาด แม้เผชิญความผันผวน นอกจากนี้ การเกิดใหม่ของเหรียญ USD1 รวมถึงการกระจายการถือครองในหมู่ผู้ใช้งาน บ่งชี้ว่าตลาดนี้อาจพลิกฟื้นได้ในระยะยาว
ด้านการบริหารเครือข่ายและการกระจายอำนาจก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ท้ายไตรมาส 3 เครือข่ายมีโหนดที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกถึง 7,511 ตัว พร้อมตัวแทนซูเปอร์(SR) เพิ่มขึ้นเป็น 397 ราย สะท้อนการกระจายอำนาจและความหลากหลายในระบบนิเวศ ส่วนการสเตกทรัพยากรที่จำเป็น เช่น พลังงานและแบนวิธ อยู่ที่ 18,000 ล้าน TRX (+2.8%) และ 26,600 ล้าน TRX (-2.1%) ตามลำดับ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของตลาด
ในเชิงกลยุทธ์ ทรอนยังร่วมมือกับผู้เล่นระดับโลกอย่างเมตาแมสก์, เชนลิงก์ และเดอะกราฟ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการทำงานข้ามเชน(Interoperability) และสนับสนุนนักพัฒนา นอกจากนี้ ทรอนยังได้รับเลือกจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใช้บันทึก GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 ปี 2025 ลงบนบล็อกเชน ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นหลักฐานหนึ่งใน ‘ความน่าเชื่อถือทางรัฐบาล’ ที่หายากในตลาดคริปโต
ในอนาคต ทรอนมีแผนพัฒนาเพิ่มเติมที่ชัดเจน ทั้งกองทุนพัฒนา AI มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ กองทุนสนับสนุนนักพัฒนา 10 ล้านดอลลาร์ รวมถึงการอัปเกรดทางเทคนิค เช่น โครงสร้างบัญชีแบบนามธรรม(Account Abstraction) และโมเดลค่าธรรมเนียมแบบไดนามิก เป้าหมายคือการผลักดันเครือข่ายให้กลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก’ ที่เกินกว่าคำว่า ‘แพลตฟอร์มบล็อกเชน’ ทั่วไป ความสามารถในการปรับตัวเชิงเทคโนโลยี พร้อมแนวโน้ม ‘ลดแรงเงินเฟ้อ’ และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำว่า ทรอนกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้งานจริงในโลกคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น 0