บิตคอยน์(BTC) กำลังเข้าสู่ช่วง ‘การเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ’ จากแรงหนุนของกระแสเงินไหลเข้าจากสเตเบิลคอยน์ที่แข็งแกร่งบนแพลตฟอร์มไบแนนซ์ ซึ่งแม้ว่าความผันผวนในตลาดยังคงมีอยู่ แต่ตัวชี้วัดสำคัญหลายอย่างต่างแสดงให้เห็นถึงการสะสมแรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงขาขึ้นรอบใหม่
ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน อาหรับเชน เมื่อวันที่ 24 บิทคอยน์ในไบแนนซ์มีค่า Z-score อยู่ที่ประมาณ 0.87 ซึ่งสะท้อนว่าราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับเฉลี่ยทางประวัติศาสตร์ ขณะที่สเตเบิลคอยน์อย่างเทเธอร์(USDT) มีค่า Z-score พุ่งขึ้นถึง 3.87 บ่งชี้ว่ากำลังมีเม็ดเงินขนาดใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด โดยทั่วไปแล้ว นี่เป็นสัญญาณว่ามีกำลังซื้อที่พร้อมใช้งานมากขึ้นในระยะสั้น
อีกหนึ่งตัวชี้วัดคือค่า Relative Z-score ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.0 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการซื้อขายอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ ใจความคือ เม็ดเงินยังไม่ออกจากระบบ แต่กำลังรออยู่ในตลาดและพร้อมเข้าซื้อ หากแนวรับทางเทคนิคหลักยังคงอยู่ ก็อาจแปรเปลี่ยนเป็นแรงซื้อมหาศาลได้ในอนาคต
ความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์และสเตเบิลคอยน์ขยับแตะระดับค่าสหสัมพันธ์ที่ 0.55 ซึ่งบ่งบอกว่ากระแสเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดมีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพของราคา ปรากฏการณ์เงินลงทุน ‘ที่รอการลงทุน’ ลักษณะนี้ มักปรากฏให้เห็นก่อนที่ราคาบิตคอยน์จะเข้าสู่ช่วงพุ่งทะยานครั้งใหม่
อีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญคือการเพิ่มขึ้นของการถอนบิตคอยน์ออกจากศูนย์กลางการซื้อขาย โดยนักวิเคราะห์ที่ใช้นามแฝงว่า ดาร์กโพสต์ เปิดเผยว่า ปริมาณธุรกรรมถอน BTC จากไบแนนซ์เพิ่มขึ้น 4 เท่า นับตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการโอนเหรียญไปสู่กระเป๋าส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งอาจสื่อถึงความต้องการถือครองระยะยาว หรือการเข้าซื้อตอนราคาย่อตัว ความเคลื่อนไหวนี้ช่วยลดแรงขายในระยะสั้นได้อย่างมีนัย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดระยะสั้นยังเผชิญแรงกดดัน โดยข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่าบิตคอยน์กำลังซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 101,000 ดอลลาร์ (ราว 1.11 ล้านบาท) ลดลงราว 8.5% ภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา และร่วงหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ 100,000 ดอลลาร์(ประมาณ 1.1 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทำให้บรรยากาศในตลาดเปลี่ยนเป็นเชิงลบดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ร่วงลงแตะระดับ 21 สะท้อนถึงสภาวะความวิตกอย่างรุนแรง โดยความหวังการฟื้นตัวยังไม่กลับมาในขณะนี้
นักวิเคราะห์จากบริษัท ซานติเมนต์ มองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นกระบวนการ ‘ล้างอารมณ์เกินจริง’ โดยบทสนทนาเชิงลบเกี่ยวกับบิตคอยน์กำลังพุ่งสูงแตะระดับเดียวกับช่วงที่ตลาดลงลึกในอดีต นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนคำถามจาก ‘ราคาจะฟื้นอย่างไร’ มาเป็น ‘บิตคอยน์จะอยู่รอดได้ไหม’ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอารมณ์ตลาดอยู่ในจุดสุดขั้ว *ความคิดเห็น: และในอดีตช่วงความรู้สึกเชิงลบแบบสุดขั้วเช่นนี้ มักเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับตัวอย่างรุนแรง*
ภาพรวมแล้ว บิตคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วงสะสมแรงและรอจังหวะ ดีมานด์จากสเตเบิลคอยน์และกระแสเงินสดที่สะสมในตลาดชี้ชัดถึง ‘สัญญาณการเตรียมตัวเพื่อการพุ่งขึ้น’ แม้จะมีความเป็นไปได้ของการปรับฐานในระยะสั้น แต่หากระดับแนวรับสำคัญยังไม่แตก โอกาสของการฟื้นตัวอย่างรุนแรงอาจยังคงอยู่ตรงหน้า
ความคิดเห็น 0