บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญแรงขายหนักใกล้แนวต้านที่ระดับ 116,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.16 แสนบาท โดยยังคงได้รับแรงพยุงจากแนวรับช่วงต้นที่ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดยังไม่แสดงสัญญาณการ ‘ฟื้นตัวของแรงซื้อ’ อย่างชัดเจน ส่งผลให้โอกาสในการรีบาวด์ยังคง ‘จำกัด’
ตามการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ราคาบิตคอยน์ได้หลุดแนวค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันและ 200 วันที่ช่วง 110,000 ดอลลาร์ลงมา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าระยะสั้นได้พลิกกลับเป็นขาลง ขณะเดียวกันราคายังเคลื่อนไหวแบบไม่มั่นคงบริเวณแนวรับทางเทคนิคที่ 100,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ‘ดัชนี RSI’ อยู่ที่ระดับ 36 ซึ่งเกือบเข้าสู่ภาวะ Oversold แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนของการฟื้นตัว หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจลงต่อถึง 95,000 ดอลลาร์ หรือราว 9.5 หมื่นบาท
เมื่อพิจารณาจากกราฟแบบ 4 ชั่วโมง จะเห็นว่า ‘รูปแบบลิ่มขาขึ้น’ (Rising Wedge) ก่อนหน้านี้ได้พังทลาย และเปลี่ยนมาเป็นแนวต้านแทน ส่งผลให้ราคาอ่อนตัวลงต่อ สำหรับ RSI ในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 41 ซึ่งชี้ว่าราคายังมีโอกาส ‘ปรับฐานลงต่อ’ ระยะสั้นยังคงมีแนวรับสำคัญที่ช่วง 100,000-101,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากถูกทะลุ ก็อาจนำไปสู่การเร่งตัวลงรอบใหม่
ด้าน ‘จิตวิทยาตลาด’ ยังคงไม่เอื้อต่อแรงซื้อ นักลงทุนยังคงระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจาก ‘มูลค่า Open Interest’ ของบิตคอยน์ร่วงลงจาก 45,000 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียงไม่ถึง 33,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการถูก ‘ล้างเลเวอเรจ’ จำนวนมาก โดยเฉพาะฝั่งที่ถือสถานะ Long อย่างไรก็ดี แม้จะมีการชำระบัญชีออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่พบ ‘ทุนใหม่’ ไหลเข้าสู่ตลาด ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนจำนวนไม่น้อยยังคาดการณ์ว่าราคาอาจอ่อนตัวได้อีก
หากบิตคอยน์ต้องการกลับมาฟื้นตัวในระยะสั้น การยืนเหนือช่วง 108,000–110,000 ดอลลาร์ให้ได้ จะถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่จะช่วยดึงดูดเงินลงทุนกลับคืนมา พร้อมจุดชนวนให้เกิดแรงซื้อทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม หากไม่อาจผ่านระดับราคานี้ไปได้ ตลาดคริปโตอาจเผชิญกับช่วงปรับฐานต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง ความเห็นหนึ่งระบุว่า ณ จุดนี้ “ตลาดยังต้องใช้เวลาเรียกความมั่นใจกลับคืนมา”
ความคิดเห็น 0