แม้ว่า ‘ทรัมป์มีเดียแอนด์เทคโนโลยีกรุ๊ป’ ซึ่งเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีทรัมป์ จะถือครองบิตคอยน์(BTC) อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยพยุงรายงานกำไรขาดทุนไตรมาส 3 ให้ดีขึ้นได้
เมื่อวันที่ 24 บริษัทเปิดเผยว่าขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 54.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนเพียง 19.3 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้บริษัทเป็นผู้ให้บริการ ‘ทรูธโซเชียล’ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทรัมป์ ซึ่งระบุว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นคือสาเหตุหลักของความเสียหายดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน รายได้ในช่วงไตรมาสก็ลดลง โดยทำเงินได้เพียง 972,900 ดอลลาร์ จากเดิมที่เคยทำได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดลดลง 1.73% ที่ระดับ 13.10 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังปิดตลาดไปอยู่ที่ 13.20 ดอลลาร์
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม บริษัทได้เปิดเผยแผนการซื้อบิตคอยน์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ณ วันที่ 30 กันยายน มีการถือครองบิตคอยน์จำนวน 11,542 เหรียญ โดยในรายงานผลประกอบการไตรมาสนี้ บริษัทระบุอีกด้วยว่ามีแผนจะซื้อเพิ่ม รวมถึงกำลังพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์คริปโตอื่นที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกัน
แต่ถึงแม้จะมีการเคลื่อนไหวในด้านคริปโตเช่นนี้ ความมั่นคงด้านการเงินของบริษัทกลับยังคงมีความเปราะบาง *ความคิดเห็น* มีนักวิเคราะห์มองว่า การถือครองบิตคอยน์แม้จะมี ‘สัญลักษณ์’ ของการร่วมขบวนกระแสสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ก็ยังไม่สามารถแปลงเป็นตัวช่วยทางบัญชีในระยะสั้นได้อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0