ธนาคารกลางอังกฤษเดินหน้ากำหนดกรอบกำกับดูแล *สเตเบิลคอยน์* ที่อ้างอิงตามเงินปอนด์ โดยมีเป้าหมายเริ่มใช้จริงภายในปี 2025 เพื่อตอบรับกับแนวโน้มการใช้งาน *สเตเบิลคอยน์* ที่เพิ่มขึ้นในระบบการชำระเงินของประเทศ
เมื่อวันที่ 24 ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) ได้เผยแพร่ร่างข้อเสนอเกี่ยวกับกรอบกำกับดูแลสำหรับ ‘*สเตเบิลคอยน์ประเภทมีระบบความเสี่ยงสูง (Systemic Stablecoins)*’ โดยเปิดรับความเห็นจากสาธารณชนจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2026 เนื่องด้วยความเป็นไปได้ที่ *สเตเบิลคอยน์* จะมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในภาคการเงิน จึงอาจมี *ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ* หากไม่มีกรอบกำกับที่เหมาะสม
ตามข้อเสนอดังกล่าว ผู้ออก *สเตเบิลคอยน์* จะต้องวางเงินค้ำประกันอย่างน้อย 40% ของหนี้สินทั้งหมดไว้กับธนาคารกลาง โดยไม่มีดอกเบี้ย ขณะที่อีก 60% สามารถถือครองในรูปของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของอังกฤษ ซึ่งการกำหนดนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษา *ความมั่นคงของมูลค่าและความสามารถในการชำระคืน* ของสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าว
ข้อเสนอฉบับนี้ยังระบุถึง *ขีดจำกัดการถือครอง* โดยบุคคลธรรมดาจะสามารถถือ *สเตเบิลคอยน์* ได้ไม่เกิน 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.38 ล้านบาท) ต่อเหรียญ ส่วนผู้ค้าปลีกสามารถถือได้สูงสุด 10,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.69 ล้านบาท) ยกเว้นมีเหตุผลด้านการดำเนินธุรกิจที่เพียงพอ สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ขีดจำกัดอยู่ที่ 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 169 ล้านบาท) ต่อเหรียญ
ทางธนาคารกลางตั้งเป้าว่าจะสรุปเนื้อหาสุดท้ายของกรอบกำกับดูแลนี้ภายในครึ่งหลังของปี 2025 หลังจากช่วงเปิดรับความคิดเห็นเสร็จสิ้น
การเคลื่อนไหวของอังกฤษในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มระดับโลกที่หลายประเทศเร่งเดินหน้าร่างกฎระเบียบสำหรับ *สเตเบิลคอยน์* ท่ามกลางการเข้ามาในโลกคริปโตของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่างเพย์พาล(USD) และสไตรป์ ที่ต่างเปิดรับการใช้เงินดิจิทัลมากขึ้น
*ความคิดเห็น*: หากแผนกำกับดูแลฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตามแผน ก็อาจกลายเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่น ๆ เช่นเดียวกับที่กรอบ MiCA ของสหภาพยุโรปกำลังจะเป็น จุดนี้อาจส่งผลให้ *สเตเบิลคอยน์* เริ่มก้าวเข้าสู่ *ระบบการเงินอย่างเป็นทางการ* ซึ่งจะเปิดประตูใหม่ให้กับโครงการคริปโตหรือแพลตฟอร์มการชำระเงินที่อิงกับสกุลเงินดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0