เมื่อวิกฤต ‘ชัตดาวน์’ ของรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีสัญญาณคลี่คลาย ตลาดคริปโตก็กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะนักลงทุนหันมาจับตา ‘บิตคอยน์(BTC)’ และ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ แล้ว ยังมีความคาดหวังต่อ ‘อีทีเอฟ’ ที่อิงกับริปเปิล(XRP) ที่กำลังได้รับกระแสความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) สภาสูงของสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณเพื่อยุติวิกฤตชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นวิกฤตที่ยืดเยื้อมายาวนานที่สุดครั้งหนึ่ง เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ตลาดโดยรวมมีสัญญาณบวกทันที ทำให้ราคาในตลาดคริปโตพุ่งขึ้น โดยเฉพาะริปเปิล(XRP) ที่ราคาขยับขึ้นมากกว่า 12% ภายใน 24 ชั่วโมง ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 2.56 ดอลลาร์ หรือราว 2,560 วอน
กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเปิดตัวอีทีเอฟที่อิงกับ XRP ยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้น หลังมีการเปิดเผยว่าบนเว็บไซต์ของศูนย์รับฝากและชำระราคาแห่งสหรัฐ (DTCC) มีการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์อีทีเอฟที่เกี่ยวข้องกับ XRP หลายรายการ ข้อมูลล่าสุดระบุว่ามีอีทีเอฟ XRP ทั้งที่กำลังจะเปิดตัวหรืออยู่ในสถานะ ‘แอคทีฟ’ รวมมากถึง 11 รายการ โดยผู้จัดการสินทรัพย์ที่อยู่ในรายชื่อ ได้แก่ 21Shares, ProShares, Bitwise, Canary Capital, Volatility Shares, REX-Osprey, CoinShares, Amplify และ Franklin Templeton
แม้การขึ้นทะเบียนในระบบของ DTCC จะไม่ใช่ตัวการันตีการอนุมัติหรือการเปิดตัวจริงของอีทีเอฟ แต่ก็สามารถมองได้ว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าตัวผลิตภัณฑ์อยู่ในโครงสร้างพื้นฐานของตลาดแล้ว และพร้อมเข้าสู่กระบวนการเปิดตัวในไม่ช้า
ขณะเดียวกัน ตลาดเริ่มมองว่าความร่วมมือระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับสภาคองเกรสในการแก้ไขปัญหาชัตดาวน์ อาจส่งผลเชิงบวกต่อกระบวนการอนุมัติอีทีเอฟโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หากอีทีเอฟ XRP ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เท่ากับเป็นการเปิดประตูให้เงินทุนจากสถาบันไหลเข้าสู่ระบบของริปเปิล เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดของ XRP และอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมในอนาคต
ความคิดเห็น 0