ราคาบิตคอยน์(BTC) ยังคงผันผวนหลังจากดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนปรับฐานอย่างรุนแรง โดยอยู่ในช่วงที่ตลาดกำลัง ‘ชี้ชะตา’ ตามวิเคราะห์ของ กี ยองจู ผู้ก่อตั้งคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ที่ออกมาแสดงมุมมองชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต โดยระบุว่าแรงขายจาก "วาฬ" และกระแสเงินทุนจาก ETF กำลังผลักดันให้ตลาดเข้าสู่จุดตัดสำคัญ
กี ยองจู เผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ราคาบิตคอยน์แตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 126,025 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.26 ล้านบาท) ก่อนจะร่วงลงมาราว 20–30% ซึ่งเขามองว่าเป็นพฤติกรรมคลาสสิกของช่วง ‘กระจาย(distribution)’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อราคาทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เหล่านักลงทุนรายใหญ่ก็เริ่มเทขายคริปโตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิด ‘ภาวะอุปทานล้นตลาด’ ซึ่งกดดันให้ราคาย่อตัวลง
แม้กี ยองจูจะเคยมองว่า 'ตลาดกระทิง' ได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่เขายอมรับว่า ‘สตราเทจี(Strategy)’ และการไหลเข้าของกองทุน ETF บิตคอยน์ ได้ช่วยพยุงตลาดไว้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า *หากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวอ่อนแรง* หรือเงินทุนจาก ETF เริ่มไหลออก ตลาดอาจกลับเข้าสู่ภาวะขาลงต่ออีกหลายปี
เขายังเตือนว่า เครื่องชี้ตลาดหลายรายการ เช่น “ปริมาณเหรียญที่ไหลเข้าแพลตฟอร์มเทรด”, “สัญญาฟิวเจอร์สที่ยังไม่ปิด” และ “ขนาดการล้างพอร์ต” บ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังมีอิทธิพลในตลาด โดยนักลงทุนหลายรายกำลังขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านักลงทุนที่เพิ่งถือครองบิตคอยน์ได้กว่าหนึ่งปี ซึ่งแซมสัน มูว์(Samson Mow) ซีอีโอของ JAN3 ก็เผยความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
แม้ภาพรวมจะดูท้าทาย แต่ *ความหวังยังไม่จางหาย* กี ยองจูชี้ว่า บิตคอยน์ยังมีโอกาสฟื้นตัวหากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคโลกยังคงเป็นบวก และทุนจาก ETF ไหลเข้าต่อเนื่อง “บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ไวต่อสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจ” เขาระบุ พร้อมแนะกลยุทธ์ ‘ซื้อเมื่อราคาร่วง’ หากเห็นแนวโน้มว่าปริมาณการซื้อขายกลับมาแข็งแรง
เมื่อดูจากข้อมูล ณ เวลาที่เขียนบทความ ราคาบิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ 105,132 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.05 ล้านบาท) โดยมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น 3.01% จากวันก่อนหน้า อยู่ที่ 70,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 94.6 ล้านล้านวอน) ซึ่งสะท้อนสัญญาณการฟื้นตัวของตลาด นักวิเคราะห์ทั่วไปชี้ว่า ระดับราคา 111,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท) เป็นแนวต้านสำคัญที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคนิคสำหรับราคาในระยะสั้น
ตลาดกำลังจับตามองว่ากระแสเงินทุนจาก ETF และกลยุทธ์ต่าง ๆ จะยังคงอยู่ต่อหรือไม่ เพราะปัจจัยนี้จะมีผลอย่างมากในการกำหนด ‘เส้นทางใหม่’ ของบิตคอยน์ในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0