บิตคอยน์(BTC) มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ถูกขายโดยนักลงทุนระยะยาวตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และมีรายงานว่าส่วนใหญ่ของเหรียญเหล่านี้ถูกดูดซับไปโดยกองทุน ETF และนักลงทุนสถาบัน ซึ่งถือเป็น ‘การถ่ายโอนความมั่งคั่งอย่างเงียบๆ’ ภายในตลาดคริปโตในขณะนี้
ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ออนเชน เชอร์นา กา อันสเลม เปเรรา ระบุว่ากระเป๋าเงินที่ถือครองบิตคอยน์มาอย่างยาวนาน—ที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเกิน 155 วัน—กำลังปล่อยขายทรัพย์สินผ่านธุรกรรมแบบ OTC และโครงสร้างของ ETF โดยไม่กดดันราคาลงอย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณการขายดังกล่าวอยู่ที่ราว 300,000 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าราว 33 ล้านล้านวอน (ประมาณ 900,000 ล้านบาท)
กองทุน ETF รายใหญ่ อย่างแบล็กร็อก และฟิเดลิตี มีการถือครองบิตคอยน์รวมราว 1.4 ล้าน BTC หรือประมาณ 139 ล้านล้านวอน แม้จะเผชิญกับเงินไหลออกมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.9 แสนล้านวอน) ในเดือนตุลาคม แต่ก็เริ่มฟื้นตัวหลังมีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าราว 300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.1 หมื่นล้านวอน) ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
เอริก บัลชูนา นักวิเคราะห์ ETF จาก Bloomberg กล่าวเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมาว่า การไหลออกของเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.7 แสนล้านวอน) จากกองทุน ETF ทั้งระบบคิดเป็นเพียง 1.5% ของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า 98.5% ของการถือครองบิตคอยน์ยังคงมั่นคงอยู่
เปเรราเสริมว่าท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นในตลาด ราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวในช่วง 95,000 ถึง 106,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.27 ถึง 1.41 ล้านบาท) โดยมีความผันผวนอยู่ที่ 35% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตครึ่งหนึ่ง และอัตราการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงก็มีเพียง 3.1% เท่านั้น ซึ่ง บ่งชี้ถึง *เสถียรภาพของตลาดที่กำลังเพิ่มขึ้น*
โครงสร้างการซื้อขายระหว่างนักลงทุนรายใหญ่และสถาบันเช่นนี้ กำลังเปลี่ยนแปลงแนวโน้มราคาตามวัฏจักรของบิตคอยน์ในอดีต ปกติหลังการลดรางวัลบล็อก (halving) ราคาบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นกว่า 150% แต่ในรอบนี้ กลับเพิ่มขึ้นเพียง 41% เท่านั้น เปเรราให้ความเห็นว่าสาเหตุหลักคือแรงซื้ออย่างต่อเนื่องจาก ETF และแผนกการเงินของบริษัทต่างๆ ตัวอย่างเช่น Strategy ที่ถือครองบิตคอยน์มากกว่า 641,000 BTC ในขณะนี้
แนวโน้มของตลาดยังคงเป็นที่ถกเถียง โดยบริษัทวิจัยญี่ปุ่น XWIN ประเมินว่าระดับแนวต้านที่แข็งแกร่งระหว่าง 107,000 ถึง 118,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.43 ถึง 1.58 ล้านบาท) ยังไม่ถูกทะลุ และยังมีแรงเทขายจากผู้ถือครองระยะยาวหลงเหลืออยู่
ในปัจจุบัน บิตคอยน์ถูกซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 104,500 ดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านบาท) ซึ่งแม้จะลดลงราว 8% นับตั้งแต่ต้นเดือน แต่อยู่ในภาวะเพิ่มขึ้น 18% หากเทียบกับช่วงต้นปี หากบิตคอยน์สามารถยืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.35 ล้านบาท) ได้นานพอ ก็มีความเป็นไปได้ที่เม็ดเงินจากสถาบันจะหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเปิดศักราชสู่ตลาดกระทิงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถประคองตัวได้และหลุดแนวรับหลักที่ 88,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ก็อาจเกิดแรงขายรอบใหม่
เหตุการณ์ในรอบนี้สะท้อนถึง ‘การเปลี่ยนกฎของเกม’ ครั้งสำคัญในตลาดคริปโต จากยุคของนักลงทุนรายย่อยสู่วงจรที่ *สถาบันกำลังเป็นผู้กำกับราคาหลัก* ของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว ความผันผวนอาจน้อยลง แต่รูปแบบใหม่ของตลาดคริปโตน่าจะมีความซับซ้อนและยั่งยืนยิ่งขึ้นในระยะยาว
ความคิดเห็น 0