ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) และบริษัทสแตรเทจี(Strategy) เดินหน้าซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เพิ่มอีกครั้งในดีลมูลค่ามหาศาล โดยครั้งนี้มีรายงานว่าบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์จำนวนประมาณ *8,178 เหรียญ* คิดเป็นมูลค่าราว *835 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *1.1 หมื่นล้านบาท*
เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ระบุว่า การซื้อครั้งนี้ของสแตรเทจีถือเป็นการทำธุรกรรมครั้งเดียวที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้า บริษัทมีพฤติกรรมการซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ราว 400 ถึง 500 บิตคอยน์ต่อวัน แต่ล่าสุดจำนวนได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก
ปัจจุบัน *สแตรเทจี* เป็นบริษัทเอกชนที่ถือครองบิตคอยน์ในปริมาณสูงสุดในโลกในฐานะองค์กรเดียว ภายใต้การนำของเซย์เลอร์ซึ่งมักเรียกบิตคอยน์ว่าเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ และเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลนี้เป็นเครื่องมือเพิ่มมูลค่าที่เหนือกว่าดอลลาร์ตาม ‘ความคิดเห็น’ ของเขา การซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องของบริษัทจึงสะท้อนความเชื่อมั่นที่มั่นคงในระยะยาว
ดีลล่าสุดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่บริเวณเส้นราคา *60,000 ดอลลาร์* โดยนักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของสแตรเทจีเป็นสัญญาณว่า บริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการฟื้นตัวของตลาดคลิปโต โดยเฉพาะในบริบทของการที่ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง และนักลงทุนกลับมาเพิ่มความเสี่ยงในพอร์ตอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่ตลาด ‘บิตคอยน์’ เริ่มแสดงสัญญาณวัฏจักรขาขึ้นอีกระลอก การเข้าซื้อครั้งใหญ่จากเซย์เลอร์และทีมของเขานับว่าเป็น ‘สัญญาณชัดเจน’ สู่ตลาด ซึ่งอาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของสถาบันอื่นๆ ในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0