บีเอ็นบี(BNB) เหรียญหลักของไบแนนซ์ กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก หลังจากร่วงลงต่ำกว่าแนวสำคัญที่ 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.35 ล้านบาท) เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่ง BNB แตะระดับสูงสุดที่ราว 1,370 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.85 ล้านบาท) ราคาก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนถึงบริเวณ 900 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.21 ล้านบาท) ส่งผลให้เกิดการถกเถียงถึงแนวโน้มในระยะกลางถึงระยะยาว
การที่ BNB หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,080 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.46 ล้านบาท) ยืนยันให้เห็นถึง *สัญญาณขาลงเชิงเทคนิค* นักวิเคราะห์ด้านคริปโตอย่าง ‘คริปโต พาเทล’ มองว่า การร่วงลงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย โดยแม้จะมีแรงรีบาวด์เล็กน้อยเมื่อแตะโซน 880 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.19 ล้านบาท) แต่ราคาก็ยังติดอยู่ในแนวต้านสำคัญที่ช่วง 1,000–1,050 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.35–1.41 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะพลิกเทรนด์ให้กลับเป็นขาขึ้นได้
พาเทลเสริมว่า *เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นหลังจากช่วง ‘ซัมเมอร์ แรลลี่’ ก็ถูกทลายลงแล้ว* โดยเขามองโซน 730–770 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.9–10.4 แสนบาท) เป็นจุดน่าสนใจสำหรับการเริ่มเข้าซื้อ และยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว โดยตั้งเป้าราคาสูงสุดของ BNB ที่อาจแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.75 ล้านบาท) “ผมชอบเข้าเมื่อคนส่วนใหญ่ตื่นตระหนก” พาเทลกล่าว
ตรงกันข้าม นักวิเคราะห์อีกคนชื่อ ‘เฮนรี’ กลับมองว่า BNB อาจเกิดการ *เด้งกลับในระยะสั้น* โดยอ้างอิงจากรูปแบบ ‘ดับเบิลบอตทอม’ (W-Shape) ที่ปรากฏบนกราฟแท่งเทียนระยะเวลา 4 ชั่วโมง และหากสามารถฝ่าต้านสำคัญที่ 1,036 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ได้ ก็มีลุ้นขยับขึ้นไปถึงระดับ 1,175 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.58 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม *แรงส่งของตลาดยังค่อนข้างเบาบาง* โดยดัชนี RSI อยู่แถวระดับ 38 ซึ่งเข้าใกล้ภาวะขายมากเกินแต่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน ส่วนดัชนี MACD ก็ยังอยู่ในโซนลบและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อไป จึงคาดว่าจะยังมีแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่องในระยะใกล้
ขณะเดียวกัน ความรู้สึกของนักลงทุนก็ยังมี ‘ความเห็น’ ที่หลากหลาย โดยข้อมูลจาก MarketProfit เผยว่า แม้บรรยากาศโดยรวมของนักลงทุนจะค่อนข้าง ‘มองบวก’ แต่โมเดลจากแพลตฟอร์มกลับชี้ไปยัง *แนวโน้มขาลง* นอกจากนี้ ตัวเลข *การไหลเข้า BNB สู่กระดานซื้อขายในช่วงล่าสุดอยู่ที่ราว 2.06 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 28 ล้านบาท)* ซึ่งอาจสะท้อนแรงขายทำกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมแล้ว *ทิศทางการไหลของทุนยังคงเป็นแบบไหลออกจากกระดานซื้อขาย* แสดงว่าเงินทุนส่วนมากยังถูกเก็บไว้นอกตลาด
อีกจุดที่น่าสนใจคือ *โครงสร้างการถือครอง BNB เริ่มมีการกระจายตัวมากขึ้น* โดย YZi Labs บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ระบุว่า ปัจจุบันราว 2 ใน 3 ของ BNB ทั้งหมดอยู่ในมือของนักลงทุนรายย่อย ขณะที่ *ปริมาณการถือครองของ ‘창펑 자오’ (Changpeng Zhao) หรือ ซีแซด ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์อยู่ต่ำกว่า 1%* เท่านั้น
และเมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานออกมาว่า *ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศอภัยโทษ ‘เต็มรูปแบบ’ ให้กับซีแซด* จากกรณีคดีความของไบแนนซ์ ซึ่งบางฝ่ายมองว่าอาจช่วยลดแรงกดดันทางกฎหมายในอนาคต “ความคิดเห็น” ของผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ยังคงแตกแยก บางคนมองว่าเป็นข่าวดี ขณะที่อีกฝ่ายยังคงสงสัยในผลกระทบต่อราคาหรือภาพรวมของตลาดคริปโต
แม้จะเผชิญทั้งปัจจัยด้านเทคนิคและแรงกดดันจากด้านกฎระเบียบ ราคาของบีเอ็นบีก็ยัง *ไม่สามารถหาทิศทางที่แน่นอนได้* โดยการตัดสินใจว่าจะซื้อเก็บในจุดต่ำหรือไม่นั้นน่าจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนแต่ละคน
ความคิดเห็น 0