กระแสคาดการณ์ว่าอีเธอเรียม(ETH) อาจแซงหน้าบิตคอยน์(BTC) กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากที่กราฟคู่ ETH/BTC ส่งสัญญาณเชิงบวก โดยมีหลายตัวชี้วัดทางเทคนิคที่แสดงถึงความเป็นไปได้ที่ *อีเธอเรียมจะเริ่มฟื้นตัว* จากแนวโน้มที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 24 นักวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซีชื่อ กอร์ดอน เกโก (Gordon Gekko) ชี้ว่า ดัชนี RSI (Relative Strength Index) บนกราฟรายวันของคู่ ETH/BTC ได้เกิดการ ‘เบรกขึ้น’ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะ ‘แรงซื้อมากกว่าแรงขาย’ ที่สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนต่อ *อีเธอเรียม* ที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดราคาของอีเธอเรียมได้ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ 2,992.23 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.99 ล้านบาท) ขึ้นมาแตะระดับสูงสุดที่ 3,167.93 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.22 ล้านบาท) และมีราคาอยู่ที่ 3,094.46 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.12 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นราว *1.09%* ภายในวันเดียว
ราคาอีเธอเรียมยังคง ‘ยืนเหนือ’ แนวรับสำคัญที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง และนอกจาก RSI แล้ว ดัชนี MACD (Moving Average Convergence Divergence) ก็ร่วมแสดงสัญญาณขาขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเกิดการตัดกันระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 12 วัน และ 26 วันในทิศทางขาขึ้น ถือเป็นจุดสนับสนุนมุมมองว่า *มีโอกาสขึ้นต่อในระยะสั้น*
ในขณะเดียวกัน ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ล่าสุดอยู่ที่ 16 จุด ซึ่งถือว่าต่ำในระดับประวัติศาสตร์ และแม้จะสะท้อนความระแวดระวังของนักลงทุน แต่ก็อาจกระตุ้นการเก็งกำไรในช่วงสั้นให้กับ *อีเธอเรียม* ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ‘ปริมาณการซื้อขาย’ ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา ณ วันที่รายงาน ปริมาณการซื้อขายของอีเธอเรียมลดลง 29.83% เหลือราว 34.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 45.5 ล้านล้านวอน) ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า การหดตัวดังกล่าวอาจเป็นเพียงชั่วคราว โดยคาดว่าแนวโน้มจะฟื้นตัวภายหลังการอัปเกรดระบบ *‘ฟูซากะ’ (Fusaka)* ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า การอัปเกรดนี้รวมถึงฟีเจอร์ ‘PeerDAS’ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพเลเยอร์ 2 และลดต้นทุนธุรกรรม ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้งานของเครือข่าย
ด้าน *บิตคอยน์(BTC)* ในช่วงเวลาเดียวกันราคาเพิ่มขึ้นเพียง 0.31% สู่ระดับ 91,424.57 ดอลลาร์ (ประมาณ 12.39 ล้านบาท) แม้จะมีข่าวการซื้อบิตคอยน์จากรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ แต่ก็ไม่ได้สร้างแรงขับเคลื่อนที่มีนัยสำคัญ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลง 32.12% เหลือประมาณ 79 พันล้านดอลลาร์ (ราว 107 ล้านล้านวอน)
โดยทั่วไปแล้ว การที่คู่ ETH/BTC เดินหน้าแข็งค่าถือเป็นสัญญาณว่า ‘ตลาดอัลต์คอยน์’ อาจเริ่มเข้าสู่ภาวะขาขึ้น และหากอีเธอเรียมสามารถดึงโมเมนตัมจากการอัปเกรดครั้งนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ *สูงกว่าบิตคอยน์* ในระยะสั้น ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบวกต่อ *อีเธอเรียม* แม้ต้องจับตาความผันผวนด้านปริมาณซื้อขายก็ตาม
ความคิดเห็น 0