ร็อบบี้ มิชนิก หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทบริหารสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก แบล็คร็อก(BlackRock) เปิดเผยว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ลงทุนในบิตคอยน์(BTC) มองสินทรัพย์นี้เป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ หรือเครื่องมือเก็บรักษามูลค่า มากกว่าการมองว่าเป็นระบบชำระเงินในระดับโลก
เมื่อไม่นานมานี้ มิชนิกได้ร่วมพูดคุยในรายการพอดแคสต์บนยูทูบ โดยระบุว่า “ทั้งแบล็คร็อกและลูกค้าของเราไม่ได้ลงทุนในบิตคอยน์เพราะมองว่าเป็นเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกในตอนนี้” พร้อมเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ดังกล่าวว่าเหมือน ‘ออปชันที่ราคาเกือบหมดอายุ’ ซึ่งอาจดูห่างไกลจากความเป็นจริง เขายังเสริมอีกว่า การที่บิตคอยน์จะกลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในชีวิตประจำนั้น “ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวยังค่อนข้างเป็นการคาดการณ์ในเชิงเก็งกำไร”
มิชนิกยังชี้ว่าหากจะให้บิตคอยน์กลายเป็นเครือข่ายการชำระเงินจริง จะต้องข้าม ‘อุปสรรคทางเทคนิค’ หลายด้าน โดยเฉพาะเรื่อง *การปรับขยายเครือข่าย* รวมถึงความสำคัญของ ‘โซลูชันขยายผลในชั้นที่สอง’ อย่างเช่น *ไลต์นิงเน็ตเวิร์ก(Lightning Network)* ก็เป็นสิ่งจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น จากรายงานเมื่อปีที่แล้วของบริษัทวิจัย กาแล็กซี รีเสิร์ช(Galaxy Research) ก็เคยระบุว่า แนวทางการขยายเครือข่ายบิตคอยน์แบบ *โรลอัป(Rollup)* อาจดูน่าสนใจในระยะสั้น แต่ระยะยาวแล้วก็ยังมีข้อสงสัยในเรื่อง *ความยั่งยืน*
อย่างไรก็ตาม มิชนิกกลับมองว่า *สเตเบิลคอยน์* กำลังประสบความสำเร็จในตลาดการชำระเงิน โดยเขาระบุว่า “สเตเบิลคอยน์พิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการ *เคลื่อนย้ายมูลค่า* ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” และเสริมว่า “มีความสอดคล้องระหว่างตัวผลิตภัณฑ์และตลาด(product-market fit) อย่างชัดเจน และในปัจจุบันก็เริ่มมีบทบาทจริงในภาคการชำระเงินแล้ว”
สำหรับบิตคอยน์ หากจะไปถึงจุดที่ใช้งานเป็นเครื่องมือชำระเงินได้ จำเป็นต้องมีความก้าวหน้าในหลายมิติ เช่น *โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี*, *กฎระเบียบที่ชัดเจน*, และ *ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีขึ้น* แต่จนถึงปัจจุบัน ตลาดยังคงยกให้บิตคอยน์ทำหน้าที่เป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ มากกว่า
*ความคิดเห็น*: มุมมองของมิชนิกสะท้อนแนวคิดของนักลงทุนสถาบันที่ยังมองว่าบิตคอยน์คือ ‘เครื่องมือรักษามูลค่า’ มากกว่าจะเป็น ‘แพลตฟอร์มการจ่ายเงิน’ และเมื่อต้องพิจารณาระหว่างการเติบโตของสเตเบิลคอยน์กับข้อจำกัดทางเทคนิคของบิตคอยน์ ภาพที่ชัดเจนก็คือ ตลาดการชำระเงินยังคงอยู่ในความครอบครองของสเตเบิลคอยน์ ขณะที่บิตคอยน์คงบทบาทสินทรัพย์ทางเลือกที่ปลอดภัยต่อไปในระยะสั้นถึงกลาง
ความคิดเห็น 0