ราคาบิตคอยน์(BTC)หยุดชะงักหลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 89,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 4 ก่อนที่จะร่วงลงอีกครั้งท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดอนุพันธ์ โดยนักลงทุนต่างจับตาการหมดอายุของออปชันขนาดใหญ่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 20.5 ล้านล้านวอน) ส่งผลให้ความระมัดระวังของตลาดเพิ่มสูงขึ้น
การหมดอายุของออปชันบิตคอยน์ในวันที่ 7 นี้ กลายเป็นจุดสนใจสำคัญ เนื่องจาก *ออปชันแบบคอล(call option)* ส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับราคา 91,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.33 ล้านบาท) หรือสูงกว่า ซึ่งอยู่ในโซนที่ไกลจากราคาตลาดปัจจุบันอย่างมาก สะท้อนว่าตำแหน่ง ‘ขาย’ หรือ *พุตออปชัน(put option)* กำลังได้เปรียบในรอบนี้ ความเชื่อมั่นจึงเอนเอียงไปในทาง ‘เป็นกลางจนถึงขาลง’ มากกว่าความหวังว่าจะฟื้นตัวในระยะสั้น
สถานการณ์ล่าสุดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน(ADP) ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยในเร็ววันก็ยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้โมเมนตัมของราคาบิตคอยน์อ่อนตัวลง และตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจอย่างอ่อนไหว
*ความคิดเห็น* แม้จะมีแนวโน้มระยะสั้นที่ไม่สดใสนัก แต่เทรดเดอร์บางรายยังคงตั้งเป้าที่จะเห็นราคาบิตคอยน์แตะ 100,000 ดอลลาร์ (ราว 1.46 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี โดยมีการเพิ่มตำแหน่งคอลออปชันในระดับราคาดังกล่าว บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวในระยะยาวยังเป็นไปได้
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหมดอายุของออปชัน แรงกดดันจากกลุ่ม *ชอร์ตโพซิชัน(short position)* อาจทวีความรุนแรงขึ้น นักลงทุนจึงควรระวังความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นจากตลาดอนุพันธ์ ซึ่งสามารถส่งผลต่อราคาตลาดจริง การวางแผนและตีความโพซิชันในตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้
*ความคิดเห็น* แม้สัญญาณเทคนิคในปัจจุบันชี้ว่าตลาดกำลังเผชิญแรงกดดันจากฝั่งขาย แต่ภาพรวมยังไม่ถึงขั้นล่มสลาย โดยเฉพาะหากแรงซื้อกลับมาช่วงใกล้หมดปี การฟื้นตัวของบิตคอยน์อาจพลิกขึ้นใหม่อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0