บิตคอยน์(BTC) เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังจากร่วงลงอย่างรุนแรง โดยกำลังพยายามฟื้นกลับมายืนในช่วงราคา 87,000–90,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.27–1.31 ล้านบาท ตามรายงานล่าสุด บิตคอยน์ดิ่งลงจากระดับสูงสุด 106,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่เพียง 80,600 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาเพียง 10 วัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การฟื้นตัวนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสการวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นสัญญาณว่า *บิตคอยน์(BTC)* ได้สร้างจุดต่ำสุดชั่วคราวแล้ว โดยเฉพาะเมื่อพบว่าในขณะที่กระเป๋าสตางค์ของนักลงทุนรายใหญ่ยังคงขายเหรียญออกมาอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนระดับกลางกลับเร่งมือสะสมเหรียญเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant)
ข้อมูลของคริปโตควอนต์ระบุว่า กระเป๋าสตางค์ที่ถือ *บิตคอยน์(BTC)* มากกว่า 10,000 เหรียญ รวมไปถึงนักลงทุนสถาบันที่ถืออยู่ระหว่าง 1,000–10,000 เหรียญนั้น ได้กลายเป็นฝ่ายที่เทขายตลอดช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สร้างความเปราะบางให้กับโครงสร้างของตลาด
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนรายย่อยที่ถือครองน้อยกว่า 10 BTC ก็ไม่ได้มีบทบาทสนับสนุนตลาดมากนัก โดยส่วนใหญ่ยังคงเลือกขายออกในช่วง 60 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระดับกลางกลับแสดงท่าทีต่างออกไป โดยปริมาณการถือครองของที่อยู่สะสม (Accumulator Address) ได้เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ทะลุ 365,000 BTC เป็นครั้งแรก ซึ่ง “ความคิดเห็น” ของผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่อาจบ่งชี้ถึงความมั่นใจใน *บิตคอยน์(BTC)* ระยะยาวที่กำลังฟื้นกลับมา
สัญญาณเชิงบวกอื่นยังปรากฏในตลาดอนุพันธ์ เมื่อปัจจัย ‘*Funding Rate*’ หรือค่าธรรมเนียมที่จ่ายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดฟิวเจอร์ส พลิกกลับกลายเป็น ‘ติดลบ’ แสดงให้เห็นว่านักเก็งกำไรรายย่อยเริ่มลดสถานะขายออก ซึ่งเพิ่มโอกาสต่อเหตุการณ์ ‘*Short Squeeze*’ หรือการบีบบังคับให้ผู้ที่เปิดสถานะขายต้องซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า เพื่อป้องกันการขาดทุน
โดยรวมแล้วทิศทางของตลาดยังคงไม่ชัดเจน นักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยทยอยลดตำแหน่งลงทุน ขณะที่นักลงทุนระดับกลางเลือกมองในเชิงบวกและเริ่มเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวแบบผสมเช่นนี้สะท้อนถึงภาวะที่ตลาดยังตัดสินใจไม่ได้ และในระยะสั้นอาจยังต้องจับตาการชิงจังหวะระหว่างฝั่งซื้อกับฝั่งขายต่อไป
“ความคิดเห็น” จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าแม้โครงสร้างพื้นฐานของตลาดจะยังอ่อนแอ แต่ความหวังในการฟื้นตัวก็ยังพอมีอยู่ โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มนักลงทุนที่มีแนวคิดระยะยาวเริ่มกลับมาแสดงบทบาทอีกครั้งในตลาดคริปโต
ความคิดเห็น 0