นักวิเคราะห์เผย ‘บิตคอยน์(BTC)’ ยังไม่พ้นจุดวิกฤต หลังมีสัญญาณว่าตำแหน่งเลเวอเรจบางส่วนยังไม่ได้ถูกเทขายหมดจากตลาด โดยระบุไว้ว่าการปรับฐานล่าสุดอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการลดเลเวอเรจรอบใหญ่เท่านั้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจมส์ เช็ค(James Check) นักวิเคราะห์ข้อมูลบนเชน ให้ความเห็นว่าการร่วงลงของราคาบิตคอยน์ครั้งล่าสุด ถือเป็น ‘เหตุการณ์การเทขายสถานะซื้อแบบ 2 ซิกม่า’ ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนไหวราคาที่ผันผวนมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 2 เท่า โดยมักเกิดในสถานการณ์สุดขั้วของตลาด
เขาเสริมว่า แม้เลเวอเรจส่วนใหญ่จะถูกล้างออกไปแล้ว แต่ตลาดยังมีความละเอียดอ่อนพอที่จะค้นหาและ ‘ชิงออก’ ตำแหน่งสุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งเปิดช่องให้เกิดการร่วงลงอีกระลอก พร้อมระบุว่า
“เรายังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่บิตคอยน์จะร่วงลงไปในช่วง 70,000–80,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.29–1.46 ล้านบาท) เพื่อเคลียร์ตำแหน่งเลเวอเรจสุดท้ายได้”
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีความอ่อนไหวสูง ความเคลื่อนไหวระดับ ‘2 ซิกม่า’ คือสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกถึงแรงเทขายที่มากผิดปกติ เนื่องจากเป็นระดับที่ราคาหลุดกรอบความผันผวนตามเกณฑ์สถิติ และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการ ‘ลิควิดเดชัน’ หรือการบีบบังคับขายตำแหน่งลงทุนแบบเลเวอเรจ
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ได้ร่วงลงเกินกว่า 24,000 ดอลลาร์ (ราว 3.52 ล้านบาท) โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 82,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 21 (เวลาท้องถิ่น)
ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า แม้ความผันผวนจำพวกนี้จะสร้างแรงกดดันต่อราคาในระยะสั้น แต่ก็มีข้อดีในแง่ของการ ‘ล้างพิษตลาด’ โดยเฉพาะการลบสถานะเลเวอเรจที่เกินตัวออกไป ซึ่งอาจปูทางสู่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น: เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นว่าการใช้เลเวอเรจในภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง อาจเป็นดาบสองคม และในสถานการณ์เช่นนี้ กลยุทธ์ที่เน้นการป้องกันความเสี่ยง อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการไล่ล่ากำไรในระยะสั้น
‘2 ซิกม่าอีเวนต์’ ถือเป็นเหตุการณ์หายากในเชิงสถิติ ซึ่งในการลงทุนคริปโต เมื่อเกิดขึ้นมักตามมาด้วยแรงเทขายขนานใหญ่และการล้างพอร์ตแบบเร่งด่วน บรรดานักลงทุนควรติดตามสัญญาณเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0