ไพเน็ตเวิร์ก(Pi Network) ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาการฉ้อโกงจาก เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของไบบิต(Bybit) โดยทีมงานของไพเน็ตเวิร์กยืนยันว่ารายงานของตำรวจจีนมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีที่แอบอ้างชื่อโครงการ และไม่เกี่ยวข้องกับตัวโครงการโดยตรง
ประเด็นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หลังมีบัญชีโซเชียลมีเดียบางแห่งอ้างว่าไบบิตเคยร้องขอให้ไพเน็ตเวิร์กเข้าจดทะเบียนบนแพลตฟอร์ม แต่ถูกปฏิเสธ ต่อมา โจวได้ออกมาตอบโต้โดยระบุว่าไพเน็ตเวิร์กเป็นโครงการหลอกลวง และไม่เคยมีการพิจารณานำเหรียญดังกล่าวขึ้นเทรด นอกจากนี้ โจวยังชี้ให้เห็นว่าทางการจีนเคยเตือนเกี่ยวกับโครงการผิดกฎหมายที่มุ่งหลอกลวงผู้สูงวัยตั้งแต่ปี 2023 และตั้งคำถามถึงความถูกต้องของไพเน็ตเวิร์ก
ในบทสัมภาษณ์กับ Cointelegraph ทีมงานของไพเน็ตเวิร์กชี้แจงว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับไบบิต และไม่เคยได้รับการร้องขอให้ผ่านกระบวนการตรวจสอบธุรกิจ(KYB) นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่าโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เป็นต้นเหตุของประเด็นนี้ไม่ได้มาจากโครงการโดยตรง หลังจากคำกล่าวหาของโจว ราคาของไพเน็ตเวิร์ก(PI) ได้ร่วงจาก 1.84 ดอลลาร์เหลือเพียง 0.61 ดอลลาร์ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.99 ดอลลาร์ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์
ไพเน็ตเวิร์กยืนยันว่าคำเตือนจากตำรวจจีนไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวโครงการ แต่เป็นการเตือนเกี่ยวกับกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างชื่อโครงการเพื่อนำไปฉ้อโกง โดยทีมงานระบุว่า "ไพเน็ตเวิร์กไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำเตือนดังกล่าว และไม่เคยมีการติดต่อกับตำรวจจีนในเรื่องนี้"
นอกจากนี้ ไพเน็ตเวิร์กยังเน้นย้ำว่ามีผู้ใช้งานที่ ‘ใช้งานจริง’ อยู่กว่า 60 ล้านราย ขณะที่บางแหล่งข่าวอ้างอิงข้อมูลจากบล็อกเชนระบุว่ามีผู้ใช้เพียง 10.8 ล้านรายเท่านั้น ทางโครงการได้ชี้แจงว่าตัวเลขนี้หมายถึงผู้ที่เปิดใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งยังต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน(KYC) และขั้นตอนอื่น ๆ
แม้จะเผชิญกับข้อกล่าวหา ไพเน็ตเวิร์กยังคงเติบโตต่อไป โดยมียอดดาวน์โหลดแอปบนกูเกิลเพลย์สโตร์ทะลุ 100 ล้านครั้งแล้ว ขณะที่ตลาดยังคงจับตาดูพัฒนาการของโครงการนี้ และความคืบหน้าของข้อพิพาทกับไบบิต
ความคิดเห็น 0