เครือข่ายไฟฟ้าของรัฐเทกซัสในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่จากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของศูนย์ข้อมูลที่ใช้ขับเคลื่อนด้วย ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’ ซึ่งมีปริมาณมากกว่าความต้องการในอดีตจากผู้ประกอบการขุดบิตคอยน์(BTC)
ตามรายงานล่าสุดของคณะกรรมการความเชื่อถือไฟฟ้าแห่งเทกซัสหรือ ERCOT เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2024 มีคำขอใช้พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่เข้าสู่ระบบถึง 226 กิกะวัตต์(GW) โดยในจำนวนนี้ประมาณ 73% มาจากศูนย์ข้อมูล AI ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในพื้นที่รัฐเทกซัส
ERCOT รับผิดชอบดูแลมากกว่า 90% ของระบบไฟฟ้าในรัฐเทกซัส โดยมีระบบส่งและกระจายไฟฟ้าเป็นของตนเอง รายงานจาก The Miner Mag สื่อด้านคริปโต ระบุว่า เฉพาะในปีนี้มีคำขอใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ถึง 225 ครั้ง ขณะที่โครงการผลิตไฟฟ้าที่เสนอเข้าสู่ระบบมีถึง 1,999 โครงการ รวมกำลังการผลิตที่รอพิจารณาสูงถึง 432 GW
อย่างไรก็ตาม ความต้องการของภาค AI นั้นเติบโตเร็วกว่าความสามารถในการจ่ายไฟอย่างมาก โดยที่โครงการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ ERCOT กำลังพิจารณา ยังคงพึ่งพาแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่าง ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ และ ‘แบตเตอรี่’ ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงของศูนย์ข้อมูล AI ได้ ต่างจากผู้ขุดบิตคอยน์ที่สามารถลดหรืองดการใช้ไฟชั่วขณะเพื่อรองรับความไม่สมดุลได้ตามต้องการ
ERCOT เตือนว่า ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์-อุปทานนี้ เป็นความท้าทายสำคัญทั้งต่อความน่าเชื่อถือของระบบไฟฟ้าในอนาคต และต่อโครงสร้างการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะเมื่อโครงข่าย AI ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเข้มข้นมากขึ้น และต้องมีการวางแผนทรัพยากรและระบบอย่างรอบคอบมากขึ้น
*ความคิดเห็น: การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างความต้องการพลังงานที่ขับเคลื่อนโดย AI นี้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดการปรับระบบไฟฟ้าใหม่ และเปิดโอกาสต่อการลงทุนในหุ้นพลังงาน ทรัพย์สินด้านการผลิต และโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าในอนาคต*
ความคิดเห็น 0