บริษัทด้านการลงทุนคริปโตอย่างทเวนตีวัน แคปิตอล(XXI) ซึ่งมี ‘บิตคอยน์(BTC)’ เป็นศูนย์กลาง กลายเป็นประเด็นร้อนหลังจากราคาหุ้นร่วงลงถึงเกือบ 20% ในวันแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยเหตุการณ์นี้เปิดเผยความกังวลจากนักลงทุนที่แม้บริษัทจะถือครองบิตคอยน์จำนวนมากแต่ก็ยังไม่ได้รับ ‘มูลค่าเพิ่ม’ จากตลาด
เมื่อวันที่ 24 สำนักข่าวเผยว่าทเวนตีวัน แคปิตอลเข้าตลาดผ่านการควบรวมกับบริษัทเช็คเปล่า(SPAC) และได้รับตัวย่อว่า ‘XXI’ โดยเปิดเผยว่ามีครอบครองบิตคอยน์มากกว่า 43,500 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านวอน อย่างไรก็ตามกระแสตอบรับจากตลาดกลับเย็นชากว่าที่คาด ส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกของการซื้อขาย
ความวิตกที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนในตลาดกำลังตระหนักว่าการถือ ‘บิตคอยน์’ เพียงอย่างเดียวไม่อาจเพียงพอสำหรับการรับความเชื่อมั่น ระยะหลังมานี้ กระแสความนิยมเกี่ยวกับบริษัทที่เข้าตลาดผ่าน SPAC เริ่มลดลง ขณะเดียวกันความผันผวนของคริปโตเคอร์เรนซีก็ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง ทำให้ตลาดไม่ประเมิน ‘mNAV’ หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทสูงกว่าราคาตลาดแต่อย่างใด
แม้จะถูกมองว่าเป็นเพียง ‘ตู้เซฟสำหรับบิตคอยน์’ แต่ทเวนตีวันได้แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อิงกับคริปโต โดยผู้ก่อตั้งอย่างแจ็ค มัลเลอร์ส ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแพลตฟอร์มสไตรค์(Strike) ยืนยันว่าเป้าหมายของบริษัทเน้นการสร้างระบบเศรษฐกิจที่มีบิตคอยน์เป็นหัวใจสำคัญ
ในด้านพันธมิตร ทเวนตีวันยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนเช่น เทเธอร์(USDT), บิทฟิเนกซ์, ซอฟต์แบงก์ และเคนเทอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ซึ่งเป็นคู่ค้าระดับ Tier-1 ของธนาคารกลางสหรัฐ ถือเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทเมื่อเทียบกับบริษัทประเภท DATs อื่นในตลาด
อย่างไรก็ตาม ‘ความคิดเห็น’ จากตลาดชี้ว่า บริษัทด้านบิตคอยน์ยังต้องพิสูจน์รูปแบบการสร้างรายได้ที่เป็นรูปธรรม หากไม่มีโมเดลรายได้ที่ยั่งยืน ก็คงยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นหรือได้รับการประเมินมูลค่าสูงในตลาด แม้จะถือครองคริปโตเคอร์เรนซีในปริมาณมากก็ตาม
‘คำ’ สำคัญ: ทเวนตีวัน แคปิตอล(XXI), บิตคอยน์(BTC), SPAC, mNAV, รายได้คริปโต
ความคิดเห็น 0